10 ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี เสียงใส เบสหนัก แบตเตอรี่อึด 2022

radaboot.p
radaboot.p
8 Min Read

สำหรับคนที่รักในเสียงเพลงเสียงดนตรี แน่นอนว่าการมีลำโพงคุณภาพดีนับว่าเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างอารมณ์และบรรยากาศการฟังเพลงให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น เพราะมีความสัมพันธ์กับแนวเพลงที่ฟังอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ เสียงเบส เสียงกลาง เสียงต่ำ เสียงสูง เสียงร้อง และเวทีเสียง ในปัจจุบัน ลำโพงบลูทูธ ก็เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่มอบความสะดวกสบายให้กับการฟังเพลงได้อีกระดับ เป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่สามารถทำได้จากมือถือสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว และส่วนใหญ่มักจะออกแบบให้สามารถพกพาได้ มีแบตเตอรี่ในตัว ให้ความสะดวกทางเสียงเพลงได้ในทุกที่ที่ต้องการ ไม่ว่าจะใช้งานภายในบ้าน นอกบ้าน ไปท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ลำโพงบลูทูธก็สามารถเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขและความสนุกได้อย่างไม่ขาดตอน ในวันนี้บทความจาก za.in.th จะพาไปสำรวจ “10 ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี เสียงใส เบสหนัก แบตเตอรี่อึด 2022” เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่กำลังต้องการลำโพงบลูทูธคุณภาพดีสักตัวไปใช้กัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย


JBL Boombox 2

เริ่มต้นกันด้วยเจ้าแห่งลำโพงเสียงกระหึ่มของขาแดนซ์ตัวจริง! JBL รุ่น Boombox 2 ลำโพงบลูทูธแบบพกพาขนาดใหญ่ ด้วยดีไซน์สุดเท่ที่ออกแบบมาให้มีหูหิ้วสามารถจับได้ถนัดมือ ตัวเครื่องลำโพงผลิตจากวัสดุตะแกรงผ้าถักแบบแน่นหนา ด้ามจับหูหิ้วผลิตจากวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงทนทาน ด้านฐานล่างของเครื่องมียางรองพื้นกันลื่นอย่างดี พร้อมกันน้ำกระเด็นหรือหกใส่ด้วยมาตรฐาน IPX7 ด้านหลังมีช่องเสียบปลั๊กไฟ USB-A Micro USB และ AUX ขนาด 3.5 mm. และรองรับการใช้งาน Power Bank สำหรับชาร์จมือถือและอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย สามารถเปิดเพลงผ่านอุปกรณ์การเชื่อมต่อบลูทูธเวอร์ชั่น 5.1 ได้อย่างเสถียรและไม่กระตุก ภายในประกอบด้วย Woofer 4 นิ้ว 2 ตัว Tweeter 0.75 นิ้ว 2 ตัว ให้เสียงที่ทรงพลังดังกระหึ่ม เสียงเบสหนัก นุ่มลึก หากเปิดสุดเสียงทำโต๊ะสั่นได้เลย เสียงไม่อู้ทำร้ายหู เสียงร้องมีความโปร่งใสสะอาด กระจายเสียงได้ดี เหมาะกับเพลงและดนตรีทุกแนว โดยเฉพาะสายปาร์ตี้จัดไปไม่มีผิดหวังแน่นอน สามารถเล่นได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แบตเตอรี่อึดถึงใจ และมีฟังก์ชัน PartyBoost ที่สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงตัวอื่นของ JBL ที่มี PartyBoost เหมือนกันได้มากถึง 100 ตัว เลยทีเดียว

  • ขนาด 484 x 201 x 256 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 5.9 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ 10,000 mAh
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ 50 – 20,000 Hz
  • แรงขับ 60 วัตต์ RMS
  • ราคาโดยประมาณ 17,900 บาท


Sony SRS – XB43

Sony ยี่ห้อชั้นนำคุณภาพแห่งเสียง กับลำโพงบลูทูธขนาดพกพา รุ่น SRS XB43 ที่มาในรูปทรงกระบอกเกือบเหลี่ยม ด้วยการออกแบบและใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน กันน้ำกันฝุ่นได้ด้วย IP67 ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ด้านหลังของเครื่องมีปุ่มควบคุม พร้อมช่องสำหรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ ประกอบด้วย ช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟ ช่อง USB-A สำหรับการชาร์จแบตอุปกรณ์หรือมือถือได้ ช่อง AUX 3.5 เพื่อเชื่อมต่อการเล่นเพลงแบบมีสาย พร้อมเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ 5.0 สำหรับลำโพงตัวนี้ภายในได้พัฒนาขึ้นมาพิเศษให้เสียงด้วยระบบ X-Balance Speaker Unit จำนวน 2 ตัว พร้อมการทำงานของลำโพง Tweet อีก 2 ตัว ถ่ายทอดเสียงได้ใส กังวาน ผสานรวมกับ Passive Radiator ที่ประกบอยู่ด้านข้างลำโพงแล้ว ทำให้ได้เสียงที่หนักแน่น คมชัดทุกรายละเอียด แถมเวทีเสียงกว้าง เปิดกลางแจ้งก็เอาอยู่ มีโหมด Extra Bass ที่เพิ่มเสียงเบสให้หนักขึ้นได้ หรือหากต้องการลดระดับเสียงเบสก็ปรับไปที่โหมด Stamina ได้ และยังมีโหมดเสริม Live Sound ที่สามารถจำลองเสียงให้เหมือนกับว่าฟังดนตรีสดอีกด้วย และจุดเด่นอยู่ตรงระบบไฟที่มีมากับลำโพง สามารถเปิดให้ ไฟกระพริบ ตามจังหวะเสียงเพลงได้ เพื่อสร้างสีสันและความสวยงาม โดยควบคุมการเปลี่ยนไฟต่าง ๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Fiestable และยังสามารถสนทนาโทรศัพท์ผ่านลำโพงตัวนี้ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าฟังก์ชันแน่นเกินราคาจริง ๆ

  • ขนาด 325 x 123 x 117 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 2.9 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ –
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ 20 – 20,000 Hz
  • แรงขับ –
  • ราคาโดยประมาณ 7,490 บาท

 


Marshall Emberton

Marshall ยี่ห้อลำโพงสุดคลาสสิคในฝันของใครหลายคน กับรุ่น Emberton เป็นลำโพงบลูทูธขนาดเล็กที่สุดเท่าที่ Marshall เคยมีมา ด้วยรูปทรงที่เล็กกะทัดรัด พกพาง่าย มีน้ำหนักเบาเพียง 0.7 Kg เท่านั้น ทั้งยังกันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX7 ได้ดีอีกด้วย ภาพลักษณ์ตัวเครื่องยังคงความเท่ดูดีตามสไตล์ ด้านหน้าเป็นตะแกรงขับเสียงและโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์สวยงาม รอบ ๆ เครื่องจะหุ้มด้วยยางลายหนังกันลื่น ด้านบนตัวเครื่องจะมีปุ่มควบคุมการเล่นเพลง Control Knob พร้อมไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ ส่วนทางด้านข้างจะมีช่องสำหรับชาร์จไฟ USB-C และจะ ไม่มีช่องเชื่อมต่อสำหรับ AUX 3.5 mm เหมือนลำโพงรุ่นอื่น ๆ เพราะจะต้องเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 5.0 ได้ทางเดียวเท่านั้น สำหรับระบบเสียงเป็นแบบ Stereo ให้เสียงได้รอบทิศทาง 360 องศา ด้วย Full Range 2 ตัว พร้อมแรงขับข้างละ 10 วัตต์ และ Passive Radiator อีก 2 ตัว ช่วยให้ลำโพงตัวจิ๋วนี้เสียงทรงพลังกระหึ่มได้ไม่แพ้ลำโพงรุ่นพี่ตัวใหญ่เลยทีเดียว ให้เสียงเบสที่ลงได้ลึก ตามคุณสมบัติเด่นของ Marshall อยู่แล้ว เสียงร้องอาจจะดรอปกว่าดนตรีนิดหน่อย แต่ก็ให้ความชัดถ้อยชัดคำ เสียงใส นุ่มนวล ฟังสบายลื่นหูสุด ๆ เห็นตัวเล็กแบบนี้ แบตเตอรี่อึด ใช่ย่อย สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้นานกว่า 20 ชั่วโมง แถมยังมีฟังก์ชันชาร์จไว 3 ชั่วโมง แบตเตอรี่เต็ม 100% หรือหากไม่อยากรอให้ชาร์จเต็ม เพียงชาร์จแค่ 20 นาที ก็สามารถใช้งานได้เลยยาว ๆ 5 ชั่วโมง ต้องขอบอกเลยว่า เก่งจริง ๆ เลยนะตัวแค่เนี๊ยะ!

  • ขนาด 68 x 160 x 76 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 0.7 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ –
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ 60 – 20,000 Hz
  • แรงขับ 20 วัตต์
  • ราคาโดยประมาณ 8,900 บาท

 


AIWA Retro Heritage

 

AIWA รุ่น Retro Heritage เป็นลำโพงบลูทูธที่โดดเด่นเรื่องเสียงเบสมากที่สุดในตระกูล Retro มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกแบบเครื่องวิทยุสมัยก่อน ด้านหน้าเป็นแผงเหล็ก ตัวเครื่องทำจากไม้หุ้มด้วยหนังอย่างดี มีสายหิ้วหนังบุกำมะหยี่ถอดออกได้ ขนาดกำลังดี สามารถพกพาสะดวกและยังเหมาะเป็นเครื่องตกแต่งบ้านได้อีกด้วย สามารถเชื่อมต่อเล่นเพลงผ่านได้หลายช่องทาง ทั้งการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 5.0 ช่อง AUX และช่อง USB Drive ให้เสียงเบสหนัก นุ่มลึก ดังชัดเจน และหากใครต้องการปรับลดเสียงเบสหรือต้องการปรับย่านเสียงต่าง ๆ เอง ก็สามารถหมุนได้ที่ ปุ่มควบคุมการปรับแต่งเสียง ด้านบนของเครื่อง ที่มาพร้อมระบบ DSP ที่จะช่วยให้การปรับแต่งเสียงมีคุณภาพดีสุด ได้มากถึง 50 ระดับ พร้อมกับแรงขับที่ให้มาเยอะมาก ทำให้ได้เสียงที่กระหึ่มสุด ๆ เสียงร้องเคลียร์ใส ถึงแม้จะเจอเสียงเบสกลบก็ไม่ทำให้รู้สึกรำคาญหรืออู้อี้ มีฟังก์ชันสำหรับรับสายเพื่อคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงได้ในตัว ด้วยปุ่มกดรับด้านบนเครื่อง ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ True Wireless Stereo (TWS) เชื่อมต่อลำโพง 2 เครื่องให้ทำงานพร้อม ๆ กันได้อีกด้วย สามารถชาร์จไฟผ่านช่อง USB Type-C (DC IN 5V) ค่อนข้างใช้เวลาในการชาร์จนานพอสมควร แต่การใช้งานลำโพงต่อเนื่องก็ถือว่าแบตเตอรี่ที่ให้มาอึดใช้ได้เลย ข้อเสีย ไม่สามารถกันน้ำได้

  • ขนาด 300 x 180 x 180 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก –
  • ความจุแบตเตอรี่ 6,000 mAh
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ –
  • แรงขับ 80 วัตต์
  • ราคาโดยประมาณ 5,290 บาท


อีกยี่ห้อชั้นนำเรื่องคุณภาพเสียงที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ Bose กับลำโพงรุ่น SoundLink Revolve Plus II ที่ออกแบบมาในรูปทรงกระบอกที่มีหูหิ้วสำหรับการพกพาไปได้ทุกที่ มี Bumper กันกระแทกอย่างดี พร้อมทั้งสามารถ ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ด้วยมาตรฐาน IP55 ด้านบนตัวเครื่องจะมีปุ่มควบคุมการทำงานต่าง ๆ ด้านล่างหลังเครื่องจะมีช่อง Micro USB สำหรับชาร์จไฟแบตเตอรี่ ช่องเสียบสาย AUX/ 3.5 สำหรับเชื่อมต่อการเล่นเพลง พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแบบบลูทูธ มีจุดเด่นในเรื่องของ การกระจายเสียงได้รอบทิศทาง 360 องศา ด้วยระบบภายในที่ถูกจัดตั้งการทำงานแบบส่งคลื่นเสียงสู่ Omnidirectional Acoustic Deflector พร้อม Passive Radiator 2 ตัว ช่วยผสานให้เกิดพลังการขับเสียงออกมาได้อย่างกระหึ่มกว่ารุ่นก่อน ๆ เสียงมีความเป็นธรรมชาติ เสียงเบสนุ่มกระชับ เสียงร้องใสชัดเจน เวทีเสียงมีมิติกว้าง ฟังแล้วให้ความรู้สึกเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะฟังจากทิศทางไหนของลำโพงก็ได้ยินรายละเอียดของดนตรีครบ และสามารถเชื่อมต่อกับลำโพงของ Bose กับรุ่นอื่น ๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งด้วยเสียงผ่าน Goolgle Assistant และ Siri ได้ด้วยไมโครโฟนที่มีมาในตัว แถมยังคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงได้ ที่สำคัญ แบตเตอรี่อึดมาก ฟังต่อเนื่องได้ถึง 17 ชั่วโมง กันเลยทีเดียว

  • ขนาด 18.4 x 10.5 x 10.5 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก 0.9 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ –
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ –
  • แรงขับ –
  • ราคาโดยประมาณ 12,900 บาท


Sony SRS-XG500

สุดยอดพลังเสียงที่ไม่ว่าจะเปิดที่ไหน ที่นั่นต้องสั่นสะเทือน กับ Sony รุ่น SRS-XG500 เรียกได้ว่าเป็นลำโพงบลูทูธขนาดใหญ่ที่ให้เสียงสำหรับสายปาร์ตี้นอกบ้านโดยเฉพาะ ออกแบบให้มีหูหิ้วสามารถพกพาออกไปใช้งานข้างนอกได้สบาย ป้องกันน้ำกันฝุ่นได้ดีเยี่ยมระดับ IP66 ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่มควบคุมการทำงานต่าง ๆ ทีเด็ดอยู่ตรงที่ปุ่ม MEGA BASS ที่สามารถ กดเพิ่มเสียงเบส ให้หนักเรียกความเร้าใจได้ทุกเมื่อ ด้านหลังมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง ชาร์จแบตมือถือ เสียบแฟลชไดร์ฟได้, ช่องต่อสาย Mic/ Guitar, ช่อง AUX, ปุ่มเปิดปิดไฟ LED ที่แสดงผลข้างตัวเครื่องเพื่อสร้างสีสัน, ปุ่มเช็กสถานะแบตเตอรี่พร้อมโหมดประหยัดพลังงานเพื่อการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น สามารถเชื่อมต่อการเล่นเพลงผ่านช่อง USB AUX และ Bluetooth 5.0 มาพร้อมระบบเสียง X-Balanced Speaker Unit ที่มีไดอะเฟรมแบบ Non-circular ให้เสียงเบสที่หนัก ลึก ทรงพลัง พร้อมประสิทธิภาพ Passive Radiator ที่ทำให้การได้ยินสมบูรณ์แบบมากขึ้น เสียงร้องมีความธรรมชาติสูง เสียงใส เต็มอิ่มได้แม้ระดับเสียงจะดังมากขึ้น ทั้งยังสามารถควบคุมตั้งค่าการเล่นเพลงในโหมดอื่น ๆ และปรับลูกเล่นแสงไฟจากแอปพลิเคชัน Sony Music Center และ Fiestable ได้เพียงสัมผัสแค่ปลายนิ้ว และยังรองรับ Wireless Party Connect แบบไร้สายได้ถึง 100 เครื่อง และ L/R Stereo Pair กับรุ่นเดียวกันได้อีกด้วย ที่สำคัญรอบรับการ ชาร์จไวแบตอึดอยู่นาน ชาร์จแค่ 10 นาที ใช้ได้ถึง 3 ชั่วโมง และหากชาร์จเต็ม 100% ใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมง เต็มอิ่มได้ทั้งร้อง เล่น ฟังเพลง คุ้มค่าและครบครันเรื่องคุณภาพเสียงที่แท้จริง 

  • ขนาด 460 x 256 x 215 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 5.6 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ –
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ –
  • แรงขับ –
  • ราคาโดยประมาณ 13,990 บาท


B&O Beolit 20

 

 

มากันที่ลำโพงยี่ห้อสุดหรูระดับไฮเอนด์ Bang & Olufsen หรือเรียกสั้น ๆ ว่า B&O กับลำโพงบลูทูธที่ดึงดูดสายตาด้วยรูปทรงและความพรีเมียม รุ่น Beolit 20 ที่ถูกพัฒนาจากรุ่นก่อน ออกแบบรูปทรงคล้ายกระติกน้ำ ตัวเครื่องทำจากพลาสติกและอะลูมิเนียม แข็งแรงทนทานกันรอยขีดข่วน มีสายหิ้วหนังฟอกสำหรับพกพาที่ถอดออกได้ มีด้วยกัน 2 สี คือ Gray mist และ Black anthracite ด้านบนทางซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่มควบคุมต่าง ๆ ตรงกลางมีสัญลักษณ์จุดวงกลม รองรับการชาร์จไร้สาย (มาตรฐาน Qi) สามารถนำอุปกรณ์หรือมือถือมาวางเพื่อชาร์จแบตได้ ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟ และ ช่อง AUX 3.5 สำหรับเชื่อมต่อเพลงแบบมีสาย และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ 4.2 เพื่อรายละเอียดการเล่นเพลงที่ดีเยี่ยม ให้ระบบเสียงที่มีความ เสียงหนา อุ่น ที่เป็นจุดเด่นของ B&O และ เสียงเบสหนักชัดเจน สะอาด ลงได้ลึกพอสมควร เสียงร้องสามารถเก็บรายละเอียดคำได้ดีมาก ให้ความรู้สึกใสเป็นประกาย ฟังแล้วให้ความรู้สึกแพง ขับเสียงได้รอบทิศทาง 360 องศา ให้ระยะเวลาการใช้งานได้ ยาวนานถึง 37 ชั่วโมง หากเปิดระดับเสียงที่ 30% – 40% ถือว่าลำโพงตัวนี้แบตเตอรี่อึดมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็ยังรองรับการใช้งานผ่าน Bang & Olufsen Application ได้ เพื่อควบคุมการเล่นเพลงในโหมดต่าง ๆ หรือปรับ EQ ได้ตามใจชอบ พร้อมให้การจับคู่ระหว่างลำโพงแบบ Stereo Pearing ได้อีกด้วย ข้อเสีย ไม่มีมาตรฐานการกันน้ำ  

  • ขนาด 135 x 230 x 189 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 2.7 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ 3,200 mAh
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 37 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ 37 – 20,000 Hz
  • แรงขับ 70 วัตต์
  • ราคาโดยประมาณ 23,900 บาท

 


JBL Extream 3

สายลุยต้องถูกใจสิ่งนี้ กับลำโพงบลูทูธอีกหนึ่งรุ่นที่มีกระแสตอบรับล้นหลาม JBL Extream 3 ด้วยดีไซน์ที่ปรับให้มีความทันสมัยมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน พร้อมแถมสายสะพายสุดเท่ที่สามารถเกี่ยวเข้ากับตัวลำโพงเพื่อสำหรับพกพาไปได้ทุกที่ ไฮไลท์เล็ก ๆ คือมี ที่เปิดขวด ติดสายสะพายมาด้วย ตอบโจทย์สายปาร์ตี้สังสรรค์ได้ดีเลยจริง ๆ กันน้ำกันฝุ่นได้ดีในระดับ IP67 เลยทีเดียว ด้านหน้าตัวเครื่องมีสัญลักษณ์ JBL สวยงาม พร้อมแถบไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้ก็มีการใช้งาน แบตเตอรี่ที่อึดและยาวนานเหมือนเดิม 15 ชั่วโมง ด้านข้างในส่วนลำโพง Bass Radiator ซ้าย-ขวา มี ยางกันกระแทก เพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับการใช้งานลำโพงแบบ แนวตั้ง ได้นั่นเอง ด้านหลังมีช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟแบตเตอรี่ลำโพงและโทรศัพท์มือถือได้ ช่อง USB-A และช่อง AUX 3.5 รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 5.1 และการเชื่อมต่อ PartyBoost กับลำโพงที่รองรับด้วยกันได้มากถึง 100 ตัว และยังสามารถเชื่อมต่อมือถือ พร้อมกันได้ 2 เครื่อง โดยไม่ต้องเปลี่ยนสลับให้วุ่นวาย พร้อมทั้งให้คุณภาพระบบเสียงกระหึ่ม JBL Original Pro Sound เสียงเบสหนัก ลงลึก อิมแพคแรง เสียงกลางมีความโปร่ง เสียงใส รายละเอียดชัด ฟังสบายให้ความสนุกได้เต็มที่ ใครที่ชอบลำโพงขนาดกำลังดีแบบเสียงเบสแน่น เสียงดี ต้องไม่พลาดตัวนี้ ความสามารถเกินตัวจริง ๆ

  • ขนาด 298.5 x 136 x 134 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 1.94 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ –
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ 53.5 – 20,000 Hz
  • แรงขับ 100 วัตต์
  • ราคาโดยประมาณ 11,900 บาท


Fender Indio

Fender ยี่ห้อชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงในแวดวงเครื่องดนตรีและเครื่องเสียง กับลำโพงบลูทูธ รุ่น Indio รูปทรงสุดคลาสสิกที่ แสดงถึงความเป็นแอมป์กีต้าร์ชัดเจน ให้ความรู้สึกวินเทจน่าค้นหา เป็นลำโพงขนาดกลางที่สามารถพกพาได้ ด้านหน้าแสดงโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ด้านหลังมีช่อง USB สำหรับเป็น Power Bank ชาร์จโทรศัพท์ได้ มีช่องชาร์จไฟ และช่อง AUX 3.5 และด้านบนตัวเครื่องจะพบกับแผงควบคุมต่าง Control Knob ที่สามารถหมุนปรับย่านเสียงได้ ปุ่มกดควบคุมการเล่นเพลง และที่น่าจะโดนใจแฟน ๆ Fender ก็คือ สวิตช์เปิดปิดเครื่อง ที่เมื่อเปิดแล้ว จะมีเสียงกีต้าร์ออกมา เพื่อเป็นการแสดงความพร้อมสำหรับใช้งาน ใครที่หลงรักความพิเศษจากเครื่องดนตรีจะรู้สึกฟินสุด ๆ และสำหรับเรื่องเสียงใครที่ชอบฟังเพลงแนวร็อคน่าจะพอใจมาก ๆ เพราะให้ เสียงเบสอิมแพคใหญ่ เสียงแน่น แต่อาจจะไม่ลงลึกมาก มีเสียงร้องมีความหนาและลอยเล็กน้อย แต่ให้เสียงใส ฟังได้ง่าย ใช้เปิดเพื่อฟัง Youtube หรือดูหนังได้ ไม่ดีเลย์  และสำหรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 5.0 รองรับ aptx, AAA, SBC อีกด้วย มีฟังก์ชัน Fender Duo ที่สามารถใช้งานลำโพงรุ่นนี้ได้ 2 ตัว พร้อมกัน หรือแบบโหมด Stereo ก็ได้เช่นกัน มีไมโครโฟนในตัวสามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ แถมยังให้ แบตเตอรี่ที่อึด ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 20 ชั่วโมง สำหรับลำโพงรุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี คือ Blonde และ Black อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยตรงหูจับและปุ่มแผงควบคุม เพื่อให้ได้เลือกแบบที่ตรงใจที่สุด

  • ขนาด 12.2 x 21.6 x 9.6 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก 5 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ 5,200 mAh
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ 45 – 20,000 Hz
  • แรงขับ 60 วัตต์
  • ราคาโดยประมาณ 13,900 บาท


B&O Beosound Explore

 

 

 

สุดท้ายนี้กับยี่ห้อสุดหรูอีกครั้ง B&O รุ่น Beosound Explore น้องเล็กคนใหม่ล่าสุด กับจุดเด่นเรื่อง ความอึดของแบตเตอรี่ ที่สามารถใช้งานได้ถึง 27 ชั่วโมง พร้อมกับให้พลังเสียงที่ไม่แพ้รุ่นใหญ่ มาด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ดูดี มีความ Adventure ที่ตอบโจทย์สายนักเดินทาง ท่องเที่ยว เดินป่า ตั้งแคมป์ ด้วยวัสดุที่ทำจากอลูมิเนียมพรีเมียมที่ให้ความทนทานสูง ทนต่อแรกกระแทกและรอยขีดข่วน มีขนาดเล็กเท่าขวดน้ำ และมีน้ำหนักที่เบามาก มีสายคล้องและตะขอเกี่ยวแถมมาด้วยสำหรับการพกพา ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดีเยี่ยมมาตรฐาน IP67 และสามารถกันน้ำลึก 1 เมตร ได้นานถึง 30 นาที ก็ไม่เสียหาย ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่มควบคุมการทำงานทั่วไปใช้งานสะดวก ด้านล่างมีช่องชาร์จไฟ USB Type-C ที่ให้การชาร์จเพียง 2 ชั่วโมงก็เต็ม 100% พร้อมไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ชัดเจน ระบบเสียงสามารถขับได้ รอบทิศทาง 360 องศา ให้เสียงที่ทรงพลังกระหึ่มได้ดีด้วยแรงขับที่สูงเกินตัว เสียงเบสนุ่มกระชับ เสียงกลางให้ความหนา มีความใสสว่าง พุ่งเล็กน้อย ให้ความเป็นธรรมชาติ โดยรวมถือว่าเสียงดีมาก ฟังได้สบายเพลิน ๆ รองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 5.2 เท่านั้น ไม่มีช่อง AUX 3.5 สำหรับการเชื่อมต่อเพลงแบบมีสาย มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อลำโพงคู่แบบ Stereo และยังสามารถปรับ EQ ย่านเสียงต่าง ๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นลำโพงขนาดจิ๋วที่น่าให้ความสนใจมาก ๆ ทั้งรูปลักษณ์และความหรูหราของแบรนด์ หาพกพาลำโพงตัวนี้ไปเดินป่าแล้วละก็ จะให้ความรู้สึกแบบไฮโซเข้าป่ากันเลยทีเดียว มีถึง 3 สี ให้เลือก คือ ดำ เงิน เขียว ขอบอกเลยว่าดูดีมากน่าซื้อสุด ๆ 

  • ขนาด 81 x 124 x 81 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 0.6 กิโลกรัม
  • ความจุแบตเตอรี่ 2,400 mAh
  • ใช้งานได้นานสูงสุด 27 ชั่วโมง
  • ช่วงความถี่ 56 – 22,700 Hz
  • แรงขับ 60 วัตต์
  • ราคาโดยประมาณ 8,900 บาท

 


เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ ลำโพงบลูทูธ ที่ได้มาแนะนำกันในวันนี้ ซึ่งลำโพงแต่ละตัวก็ล้วนแต่เป็น ยี่ห้อชั้นนำระดับโลก ที่มั่นใจได้เลยว่าจะได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดตามสไตล์ของแต่ละรุ่น ทั้งยังมีความโดดเด่นในเรื่องของ เสียงเบส เสียงใส ทุกตัว เหมาะสำหรับการฟังเพลงได้ทุกแนวอย่างเต็มอรรถรส และที่สำคัญการยังให้ แบตเตอรี่ ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและอึดมาก ๆ ทำให้ช่วงเวลาของการฟังเพลงนั้นสามารถทำได้ต่อเนื่องดีไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน สามารถติดตามบทความได้ใหม่ทาง www.za.in.th

radaboot.p
Author: radaboot.p

TAGGED: , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,
Share this Article