ทำความรู้จักหุ้นใหม่ ศรีนานาพรฯ (SNNP) เจ้าตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว

2 Min Read

บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย Jele, Bento, โลตัส ได้เข้าซื้อขายแล้วเมื่อ 20 ก.ค. 64 ที่ผ่านมาเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยมากว่า 30 ปี โดยมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ กลุ่มเครื่องดื่ม ประกอบด้วย เจเล่ คูลลี่คูล ไดยาโมโตะ ฮีโร่บอยส์ และอควาวิตซ์ โดยเฉพาะเจเล่ มีส่วนแบ่งถึง 70% ของตลาดเยลลี่พร้อมดื่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ประกอบด้วย เบนโตะ ทาโกะ โลตัส ช๊อคกี้ และเบเกอรี่เฮาส์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งทั้งด้านความหลากหลายของแบรนด์และแต่ละผลิตภัณฑ์ยังเป็นผู้นำเทรนด์ของตลาด

บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP มีโรงงานผลิตทั้งหมด 6 แห่ง แบ่งเป็นในไทย 4 แห่ง และในต่างประเทศ 2 แห่ง คือ กัมพูชา และเวียดนาม เป็นที่รู้จักในผู้บริโภคชาวไทยและต่างชาติ ส่งออกไปใน 35 ประเทศ เสนอขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 240,000,000 หุ้น คิดเป็น 25% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 60% ของกำไรสุทธิ หลังไอพีโอ Concord I. Capital Limited ยังถือหุ้นใหญ่ 20.63% ซึ่งเป็นบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือ นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล และนางธัญนีย์ ไกรพิสิทธิ์กุล

ก้าวเป็นบริษัทมหาชน โดยดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม รับผิดชอบต่อสังคม คู่ค้า และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืนรับผิดชอบต่อสังคมสร้างความมั่นคงและส่งเสริมคุณภาพชีวิตในการทำงานให้กับพนักงาน และเอื้อเฟื้อต่อสังคม ชุมชนรับผิดชอบต่อคู่ค้าสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า คู่ค้า โดยดำเนินธุรกิจ อย่างมีธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการเพื่อรักษาผลตอบแทนอย่างเหมาะสมให้กับผู้ถือหุ้นรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) ยึดมั่นในปรัชญาการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และประโยชน์สุขของชุมชน ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ข้อกำหนดอื่น ๆ ตามมาตรฐานสากล เพื่อพัฒนาสร้างรากฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน การพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท

เทียบ P/E Ratio ของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกันหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ เฉลี่ย 29.1 เท่า อ้างอิงข้อมูลในช่วงระยะเวลา 12 เดือนย้อนหลังล่าสุดนับจาก 23 มิ.ย.63-22 มิ.ย.64 ดังนี้

บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) มี P/E Ratio เท่ากับ 37 เท่า
บมจ.โอสถสภา (OSP) มี P/E Ratio เท่ากับ 31.9 เท่า
บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) มี P/E Ratio เท่ากับ 29.8 เท่า
บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) มี P/E Ratio เท่ากับ 43.6 เท่า
บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) มี P/E Ratio เท่ากับ 19.2 เท่า
บมจ.พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง (PM) มี P/E Ratio เท่ากับ 13.3 เท่า
ขายหุ้นไอพีโอ : จำนวน 240 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
มีจำนวนหุ้นหลังเสนอขายไอพีโออยู่ที่ 960 ล้านหุ้น
เข้าจดทะเบียนด้วยวิธี : เกณฑ์กำไรสุทธิ (Pofit Test)
มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) : 0.50 บาท/หุ้น
มูลค่าทางบัญชี : 0.89 บาท/หุ้น สิ้นมี.ค.64
เข้าซื้อขายใน : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 20 ก.ค.64
หมวดธุรกิจ : อาหารและเครื่องดื่ม
ที่ปรึกษาทางการเงิน : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย : บล.ไทยพาณิชย์,บล.เคทีบีเอสที , บล.กรุงศรี , บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย),บล.คันทรี่กรุ๊ป และ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่