10 น้ำหอมสำหรับผู้หญิง 2022 แบรนด์ไหนดี กลิ่นนุ่มนวล หอมติดทนยาวนาน

sweety_punky
sweety_punky
5 Min Read

สิ่งหนึ่งที่สาวๆ ผู้รักการแต่งตัวจะขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ น้ำหอม เพราะกลิ่นหอมที่อิทธิพลกับความทรงจำของเรามากกว่าที่เราคิด การฉีดน้ำหอมทั้งช่วยเสริมบุคลิกและเพิ่มความเชื่อมั่น มั่นใจได้อีกด้วย ในวันที่เราต้องไปสัมภาษณ์งานหรือมีประชุมสำคัญ เราอาจจะมีความตื่นเต้น ไม่มั่นใจ การใช้น้ำหอมมีส่วนช่วยในการส่งเสริมความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับบุคลิกเราได้ด้วยนะ ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นของน้ำหอมยังสามารถสื่อถึงตัวตนของผู้ฉีด เพิ่มมิติความเป็นผู้หญิง ช่วยให้อารมณ์ดี เพิ่มความสดชื่นระหว่างวันได้เป็นอย่างดี

น้ำหอมที่มีขายอยู่ทั่วไปแบ่งเป็น 5 ประเภท แตกต่างกันไปตามความเข้มข้นของน้ำหอม ได้แก่

  • Eau Fraichie : มีความเข้มข้นของน้ำหอมประมาณ 1%-3% ติดทนประมาณ 1 ชั่วโมง
  • Eau de Cologne : มีความเข้มข้นของน้ำหอมประมาณ 2%-4% ติดทนประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  • Eau de Toilette -EDT : มีความเข้มข้นของน้ำหอมประมาณ 5%-15% ติดทนประมาณ 3-5 ชั่วโมง
  • Eau de Parfum -EDP : มีความเข้มข้นของน้ำหอมประมาณ 15%-20% ติดทนประมาณ 5-10 ชั่วโมง
  • Parfum : ความเข้มข้นของน้ำหอมประมาณ 20%-40% ติดทนประมาณ 12-24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ความติดทนจะขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาบนผิวหนังของแต่ละบุคคล และ sillage (การกระจายตัวของน้ำหอม) ของน้ำหอมด้วยนะคะ ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อนๆ ควรลองกับผิวหนังของเราก่อน เพื่อให้ได้น้ำหอมที่ตรงกับความชอบและสภาพเคมีในร่างกายของเรามากที่สุด

วันนี้ทาง ZA.in.th จึงอยากขอแนะนำ 10 น้ำหอมสำหรับผู้หญิง กลิ่นนุ่มนวล ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง การันตีความหอมแบบจริงจัง คู่ควรแก่การครอบครองกันค่ะ


Miss Dior Blooming Bouquet EDT

กลิ่นแนวเฟรช citrus floral กลิ่นหอมหวานของ peony ตัดความเลี่ยนด้วยกลิ่น citrus สดชื่น มีความหวานแบบใสๆ เพิ่มความอวลอุ่นๆ ด้วย musk ใน top note มาในขวดสีชมพูน่ารักหรูหรา มีความเจ้าหญิงมากก เหมาะสำหรับสาวหวาน แนวลูกคุณหนูแสนสดใส มีทั้งแบบขวดสเปรย์และลูกกลิ้ง สามารถพกพาไปเติมระหว่างวันได้ กลิ่นออกแนวหวานน่ารัก เหมือนเด็กสาวใส่กระโปรงบานๆ เดินเล่นในสวนดอกไม้ ช่วยเสริมความเป็นผู้หญิงได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ใช้ได้ทั้งวัยรุ่นจนถึง first jobber เลย สาย floral fruity สดใส จะต้องเลิฟกับตัวนี้แน่นอน

  • Top note: Sicilian Mandarin
  • Middle note: Pink peony, Damask rose, Apricot, Peach
  • Base note: White musk
  • จุดเด่น กลิ่นแนวลูกคุณหนู หรูหรา มีความสดใส
  • ราคาประมาณ 1,850 บาท / 20 ml


Chanel Chance EDP

น้ำหอมอีกตัวที่ใช้ได้ง่ายในชีวิตประจำวันแต่ไม่น่าเบื่อจนเกินไป มีความโมเดิร์นแต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิคแบบสาว Chanel เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ top note มีความ woody ด้วย patchouli, pink pepper, pineapple, hyacinth และ iris จากนั้นกลิ่นจะค่อยๆ เผยความหวาน ใส และสดชื่นแบบฟรุ๊ตตี้ กลิ่นไม่ฉุนจะหอมระเรื่อๆ ราวกับดอกไม้เบ่งบานในทุกย่างก้าว เป็นอีกตัวที่เหมาะมากตั้งแต่นักศึกษายันวัยทำงานเลย

  • Top note: Patchouli, Pink pepper, Pineapple, Hyacinth, Iris
  • Middle note: Lemon, Jasmine, Rose
  • Base note: Patchouli, Musk, Vetiver, Vanilla
  • จุดเด่น สามารถใช้ได้ตั้งแต่นักศึกษาไปจนวัยทำงาน เป็น chanel ที่ไม่แก่
  • ราคาประมาณ 6,600 บาท / 100 ml


Lanvin Eclat D’Arpege EDP

น้ำหอมลองแวงขวดม่วงยอดนิยมของสาวๆ หลายคน กลิ่นสดชื่นของดอก lilac ผสานเข้ากับชาเขียว และ musk กลิ่นนุ่มละมุน สบายๆ ลุคผู้หญิงเรียบร้อยไม่ค่อยอะไรกับใคร แต่แฝงไปด้วยความมั่นใจและเสน่ห์เต็มเปี่ยม กลิ่นเบลนด์มาพอดี ไม่มากไม่น้อย กลิ่นตัวนี้จะไม่ได้ฉุนหวือหวา ต้องเข้าใกล้ ซบไหล่ จะได้กลิ่นหอมที่ค่อนข้างชัด และจะมีความอุ่นๆอวลๆเมื่อสัมผัสกับผิวหนังสักระยะ เป็นกลิ่นที่สาวๆควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งอีกกลิ่นหนึ่งเลย เพราะไปได้กับทุกชุดทุกลุค ใส่กางเกงยีนส์ก็สามารถใช้ได้ หรือวันไหนหวานๆ หรูหราก็ใช้ได้ดีเช่นกัน มาในราคาคุ้มค่า 50 ml เพียงแค่ 2,700 บาทเท่านั้น กระซิบว่า หลายเสียงบอกว่าเป็นน้ำหอมที่ใช้แล้วผู้รักผู้หลง ใครอยากรู้ว่าจริงไหม ต้องลอง!

  • Top note: Lilac, Lemon leave
  • Middle note: Wisteria, Green tea, peach flower, red peony, Chinese osmanthu
  • Base note: White cedar, amber, sweet musk
  • จุดเด่น เป็นกลิ่นที่ติดอันดับน้ำหอมที่ผู้ชายชอบ
  • ราคาประมาณ 2,700 บาท / 50 ml


Fresh Rose Morning EDP

อีกหนึ่งน้ำหอมราคาเบาๆ ที่ใครได้ลองกลิ่นก็เซอไพรส์ในความหอม กลิ่นสดชื่นของกุหลาบยามเช้าสมชื่อ Rose morning กลิ่นกุหลาบที่เต็มไปด้วยน้ำค้างยามเช้าฉ่ำๆ มีความกรีนจากชาเขียว ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับอากาศร้อนของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี มีความอวลไอรอบหายเหมือนรายล้อมด้วยก้อนเมฆพาสเทล กระซิบว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ขายดีมากกกจาก Fresh มาในขวดลูกกลิ้งพกพาสะดวกไปเติมระหว่างวันใครสนใจสามารถไปตำแบบขวดลูกกลิ้งมาใช้ก่อนได้นะ 10 ml ราคาเพียง 830 บาทเท่านั้น

  • Top note: Rose, Blackcurrant, Violet leaf
  • Middle note: Bulgarian rose, Peach blossom, Freesia
  • Base note: White tea, Amber, Musk
  • จุดเด่น เป็นกลิ่นกุหลาบที่หอมแต่ไม่เลี่ยน
  • ราคาประมาณ 830 บาท / 10 ml


Jo Malone Wild Bluebell

แบรนด์ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินหรือคุ้นเคยกันดี นอกจากน้ำหอมตัวที่ฮิตมากอย่าง Pear and freesia แล้ว เราอยากจะขอแนะนำกลิ่น Wild bluebell ไว้เป็นทางเลือก สำหรับคนที่มองหาความสดชื่นเบาสบายสำหรับอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา กลิ่นมีความเขียวสดชื่นของพืชพันธุ์ เติมด้วยความ fruity ของ peach และ persimmon มีกลิ่นดอกไม้ขาวจางๆ คล้ายดอกมะลิ ชวนให้นึกถึงป่าในเทพนิยาย เป็นกลิ่นที่ค่อยๆได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องของ Jo malone กลิ่นเบาสบายจะใช้ฉีดตัวเดียวโดด ๆ หรือจะ pairing กับกลิ่นอื่นๆ ของ Jo Malone ก็ล้วนแต่ดีทั้งนั้น

  • Top note: Bell flower, Clove, Dew drop, Green leaves
  • Middle note: Peach, Persimmon
  • Base note: Musk, Powdery note
  • จุดเด่น กลิ่น airy เบาสบาย จะใช้ตัวเดียวหรือจะผสมกับตัวอื่นของ jo malone ก็จะทวีความหอมมากขึ้นอีก
  • ราคาประมาณ 2,800 บาท / 30 ml 


Chloe Signature EDP

Chloe โบว์ครีมในตำนาน น้ำหอมยอดนิยมอีกหนึ่งตัวสำหรับสาวๆ หลายคน กลิ่น fresh floral จากดอกไม้กับผลไม้ ออกหวานๆ มีความสดชื่นๆจากลิ้นจี่ กลิ่นสะอาด เพิ่มความหรูหราด้วย base note กลิ่นอำพัน และไม้ซีดาร์ เสริมสร้างความมั่นใจ ปราดเปรียว แต่ไม่ทิ้งเสน่ห์และความหรูหราในแบบผู้หญิง ดูไม่เด็กไปและไม่แก่เกินไป สามารถใช้ได้กับทุกโอกาส กลิ่นไม่เวียนหัว แถมยังติดทนนานอีกด้วย

  • Top note: Peony, Lychee, freesia
  • Middle note: Rose, lily of the valley, Magnolia
  • Base note: Virginia cedar, Amber
  • จุดเด่น เหมาะสำหรับผู้หญิงเรียบหรู หอมสะอาด ไม่ดูเด็กจนเกินไป
  • ราคาประมาณ 4,250 บาท / 50 ml


Diptyque Fleur de peau

หากสาว Lisa Blackpink ใช้อะไร สิ่งนั้นจะกลายเป็นสินค้าฮิตติดตลาดไปซะทุกตัว และน้ำหอม diptyque ก็เป็นหนึ่งในนั้น น้ำหอมแบรนด์ niche สุดฮิต มีแรงบันดาลใจมาจากความหลงใหลในงานศิลปะ สถานที่ท่องเที่ยว นำเสนอออกมาผ่านการปรุงกลิ่นน้ำหอม สำหรับกลิ่น Fleur de Peau ปรุงกลิ่นโดยนักปรุงน้ำหอม olivier pescheux เป็นกลิ่นที่มีความ unisex โดยตัวกลิ่นจะออกแนว powdery มีความหอมเย็นผสานกับดอกไม้หวานๆ คล้ายแป้งเย็นแต่ไม่แก่ไม่โบราณ แต่มีความซับซ้อนด้วยกลิ่นโทน musky บางคนจะบอกว่ากลิ่นคล้ายลิปสติกผู้หญิงแฝงอยู่ด้วย สามารถใช้ได้กับการแต่งกายหลายลุคหลายสไตล์ แต่ด้วยความที่กลิ่นของแบรนด์นี้จะค่อนข้าง Unique มากก จึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ลองไปเทสกันดูก่อนจ้า

  • Top note: Aldehydes, Pink pepper, Angelica, Bergamot
  • Middle note: Iris, turkish rose
  • Base note: Mush, Ambrette, Carrot, Ambergis, Sandalwood, Leather, Amberwood
  • จุดเด่น กลิ่นมีความ unique สูงมาก
  • ราคาประมาณ 7,450 บาท / 75 ml


Armani Si Passione

ตัวนี้เป็นน้ำหอมตัวดังอีกตัว โดดเด่นด้วยแพคเกจสีแดง คล้ายตุ๊กตาทหารอังกฤษ เป็นอีกตัวขึ้นชื่อเรื่องความหอม เหมาะกับผู้หญิงหลายสไตล์ top note มีความสว่าง สดชื่น ของ Grapefruit, Pear, Blackcurrant และ Pink pepper เมื่อผสมกันมีความคล้ายกลิ่นหมากฝรั่ง ตามมาด้วยกลิ่น floral ดอกไม้ เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ กลิ่นจะค่อยๆนวลขึ้น จากความหวานของ vanilla  สามารถใช้ได้ในทุกสภาพอากาศ ในทุกช่วงเวลา เป็นอีกกลิ่นหนึ่งที่ผู้ชายรักผู้ชายหลงมาก เรียกว่ามีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ ได้หยิบมาใช้แน่นอน

  • Top note: Pear, Black currant, Pink pepper, Grapefruit
  • Middle note: Pineapple, rose, Heliotrope, Jasmine
  • Base note: Vanilla, Cedar, Amberwood, Patchouli
  • จุดเด่น เป็นอีกกลิ่นที่จะต้องติดอันดับน้ำหอมที่ผู้ชายชอบด้วยเช่นกัน
  • ราคาประมาณ 4,400 บาท / 50 ml 


Burberry Her EDP

น้ำหอมกลิ่น fruity แฝงอบอุ่นมีเอกลักษณ์ ปรุงโดยนักปรุงน้ำหอมชื่อดัง Francis kurkdjun เปิดด้วยกลิ่นแนวสดชื่นจากผลไม้ตระกูล berry ส้มและมะนาว มีความ powdery นิดๆ และปิดด้วยความ musky ให้ฟีลอบอุ่น อบอวล ให้ฟีลคล้ายกับ strawberry shortcake นุ่มนวล เพลิดเพลินทุกครั้งที่ได้กลิ่น ขวดดูเรียบหรูทันสมัย พกพาง่าย สายน้ำหอม gourmand ห้ามพลาด

  • Top note: Strawberry, Raspberry, Blackberry, Sour cherry, Mandarin orange, Lemon
  • Middle note: Violet, Jasmine
  • Base note: Vanilla, Musk, Patchouli, Oakmoss, Cashmeran, Woody note, Amber
  • จุดเด่น สำหรับคนรักกลิ่นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีความ lively พร้อมท้าทายสิ่งใหม่
  • ราคาประมาณ 5,040 บาท / 100 ml


Maison Francis Kurkdjun Baccarat Rouge 540

น้ำหอม niche ที่กำลังมาแรงมาก กลิ่น unique แต่เข้าถึงง่าย กลิ่นมีความ woody ผสานความเฝื่อนของ saffron มีความหอมเย็น ผสานกับความหอมหวานที่ดูแพง หรูหรา บางคนจะบอกว่ากลิ่นเหมือนถุงมือยางของหมอฟัน แต่เป็นถุงมือยางที่มีความหอม จากนั้นเมื่อกลิ่นคลี่คลาย จะมีความหวานเหมือนขนมสายไหมและคาราเมลเข้ามาผสมผสาน ตัวนี้จะไม่หอมฟุ้งเตะจมูก แต่จะค่อยๆ ทยอยให้ความหอมโชยออกมาเรื่อยๆ ไม่แสบจมูก ไม่เลี่ยน ดมได้เรื่อยๆ ให้กลิ่นที่แปลกแต่หอมและเป็นความหอมที่แพงหูฉี่สมค่าตัวน้องเค้ามากๆเลย

  • Top note: Saffron, Jasmine
  • Middle note: Amberwood, Ambergis
  • Base note: Fir, Cedar
  • จุดเด่น กลิ่นเข้าถึงง่าย ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ยิ่งใช้ไปนานๆยิ่งหลงรัก
  • ราคาประมาณ 12,000 บาท / 70 ml


เคล็ดลับในการฉีดน้ำหอมให้ติดทน คือการฉีดบริเวณ ต้นคอ ข้อพับ และจุดชีพจรต่างๆ เช่น ข้อมือ จะทำให้กลิ่นกระจายตัวได้มากขึ้นเวลาเราเคลื่อนไหวด้วยจ้า และควรฉีดโดยตรงกับผิว เวลาฉีดให้ห่างตัวเล็กน้อยเพื่อให้ละอองกระจายตัวไปบนผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้คือ 10 น้ำหอมที่ ZA.in.th นำมาฝากเพื่อนๆ จะมีน้ำหอมลูกรักของเพื่อนๆเบ้างไหมน้า ใครถูกใจ สนใจตัวไหน ไปลองเทสต์กลิ่นหรือตำตามกันได้เลย ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือช่องทางออนไลน์สำหรับยุคโควิดทั้ง sephora, central online และ lazada เลยนะคะ

อย่าลืมติดตาม ZA.in.th จะได้ไม่พลาดบทความสนุกๆ ที่เราคัดสรรมาเพื่อผู้อ่านทุกท่านค่ะ

sweety_punky
Author: sweety_punky

Share this Article