10 ลำโพงซาวด์บาร์ ยี่ห้อไหนดี 2022 สำหรับต่อกับทีวีดูหนัง ฟังเพลง

radaboot.p
radaboot.p
10 Min Read

ทีวี เป็นอุปกรณ์ที่ให้ความบันเทิงได้ทั้งภาพและเสียงที่เชื่อว่าจะต้องมีในทุก ๆ บ้านอย่างแน่นอน แต่ในบางครั้งเราจะสังเกตได้ว่าการให้ เสียงจากลำโพงทีวีก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง โดยเฉพาะเวลาใช้งานทีวีเพื่อดูหนังหรือฟังเพลง เมื่อรับฟังแล้วอาจจะ ขาดหรือให้ในเรื่องของมิติเสียงได้ไม่เต็มที่นัก ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพเสียงและอารมณ์ความรู้สึกที่ได้ยินอย่างมาก หลายคนจึงมีความนิยมที่จะเลือกซื้อ ลำโพงซาวด์บาร์ มาเสริมเพื่ออัปเกรดคุณภาพเสียงทีวีให้ดีขึ้นนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งลำโพงซาวด์บาร์แบบชิ้นเดียว และลำโพงซาวด์บาร์แบบแยกชิ้น ที่สามารถตอบโจทย์ความบันเทิงได้ทุกรูปแบบตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่ต้องการ โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ลำโพงซาวด์บาร์หลาย ๆ ยี่ห้อในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ก็มีการ รองรับระบบ Dolby Atmos หรือที่เรียกว่า ระบบเสียงแบบ 3 มิติรอบทิศทาง ให้เราสัมผัสประสบการณ์ทางด้านเสียงแบบโรงภาพยนตร์หรือแบบคอนเสิร์ตได้ด้วยนั่นเอง พร้อมทั้งยังมีคุณสมบัติในการปรับจูนเสียงในโหมดต่าง ๆ ให้เข้ากับสภาพห้อง รวมไปถึงรองรับการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณและแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อเล่นคอนเทนต์ที่ต้องการได้อย่างครบครันอีกด้วย และในวันนี้เราจะพาไปสำรวจ “10 ลำโพงซาวด์บาร์ ยี่ห้อไหนดี 2022 สำหรับต่อกับทีวีดูหนัง ฟังเพลง” จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้างนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลย


Klipsch – Cinema 1200

Klipsch รุ่น Cinema 1200 เริ่มต้นกันด้วยลำโพงซาวด์บาร์ตัวท็อป ที่ออกแบบมาเพื่อความบันเทิงโดยแท้ ให้เสียงระดับขั้นเทพ ได้ใจคนรักการดูหนังและฟังเพลงไปเต็ม ๆ ด้วย ระบบเสียง 5.1.4 ch ชุดลำโพงทำจากวัสดุไม้ทั้งชุดพร้อมงานประกอบที่เป็นวัสดุพรีเมียม ตัวซาวด์บาร์มีขนาดใหญ่ น้ำหนักค่อนข้างมาก ดีไซน์ด้วยสีดำสุดเท่ ด้านหน้ามีหน้าจอ LED แสดงผลชัดเจน ภายในประกอบด้วยไดรเวอร์ขับเสียง 9 ตัว ด้วยโครงสร้าง Tractix® Horns อันเป็นเอกลักษณ์และเอกสิทธิ์เฉพาะ พร้อมลำโพงที่ให้ ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ยิงเสียงขึ้นเพดาน มาพร้อมลำโพง Sufwoofer ขนาด 12 นิ้ว ที่ให้กำลังขับ 1,200 วัตต์ ให้เสียงเบสที่แน่น กระหึ่ม ดุดัน คุณภาพดี รวมทั้งลำโพง Surround อีก 1 คู่ ที่เมื่อผสานพลังเสียงแล้วสามารถจำลองเสียงได้แบบ ระบบ Dolby Atmos 7.1.4 ch เพิ่มมิติเสียงขณะดูหนังได้รอบทิศทางสมจริง ให้บรรยากาศเสียงที่โอบล้อมผู้ฟังแบบโรงภาพยนตร์ สามารถแยกทิศทางเสียงได้แม่นยำ มีความคมชัด ได้อรรถรสในการดูหนังอย่างเต็มอิ่มและดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเสียงโหดสุด ๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังรองรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ ได้อย่างครบครัน ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานอีกด้วย

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 5.1.4 ch ถอดรหัสจำลองเสียงระบบ Dolby Atmos 7.1.4 ch
  • มีโครงสร้างจัดวางการขับเสียงแบบ Tractix® Horns เอกสิทธิ์เฉพาะของ Klipsch
  • ลำโพง Sufwoofer ขนาด 12 นิ้ว กำลังขับ 1,200 วัตต์ เชื่อมต่อแบบไร้สาย
  • ลำโพง Surround ให้ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos เชื่อมต่อแบบไร้สาย
  • การเชื่อมต่อ HDMI In 2 ช่อง, HDMI (eARC), Aux 3.5, Digital Optical, Bluetooth, Wi-Fi
  • รองรับระบบภาพ 8K HDR Pass – through
  • รองรับการเล่นแบบ Multi – room
  • รองรับ Dolby Vision HDR
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน แอปพลิเคชัน Klipsch Connect, Sportify Connect, Goolgle Assistant, Amazon alexa
  • สามารถปรับโหมดเสียงได้หลากหลายผ่านแอปพลิเคชัน Klipsch Connect
  • ราคาโดยประมาณ 75,900 บาท


Samsung HW – Q930B/ XT

Samsung รุ่น HW – Q930B XT ลำโพงซาวนด์บาร์เสียงดีรุ่นรอง Top ของปีนี้ ซึ่งความสามารถของโทนเสียงไม่แพ้รุ่น Top เลยทีเดียว มาพร้อมกับ ระบบเสียง 9.1.4 ch ตัวซาวด์บาร์ทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่ให้ความแข็งแรงและพรีเมียมกว่ารุ่นก่อน ๆ รองรับ Q-Symphony และให้การเชื่อมต่อ Dolby Atmos จาก Samsung Smart TV กับตัวซาวด์บาร์แบบไร้สายผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth มอบประสบการณ์การรับชมระบบเสียง 3 มิติ ภายในซาวด์บาร์จะถูกจัดโครงสร้างตำแหน่งลำโพงที่ให้เสียงยิงขึ้นจากด้านบนและด้านข้างให้โอบล้อมทุกทิศทาง ผสานกับตัวลำโพง Sufwoofers และลำโพง Surround 1 คู่ ที่ติดตั้งตัวขับเสียงไว้ทางด้านหน้าและด้านบน เพื่อให้มิติเสียงที่สมจริงขณะดูหนังแบบโรงภาพยนตร์ มีระบบ Spacefit Sound สามารถปรับเสียงที่คมชัดเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นหรือห้องนั้น ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ และยังสามารถวิเคราะห์สัญญาณเสียงระดับต่ำ ๆ ในแต่ละฉากได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงและอรรถรสในการรับชมที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ในด้านของการฟังเพลงลำโพงซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็ให้ความสามารถที่ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ ได้อย่างน่าตกใจอีกด้วย

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 9.1.4 ch
  • กำลังขับรวม 540 วัตต์
  • รองรับมาตรฐานเสียง 3 มิติ รอบทิศทาง Dolby Atmos และ DTS:X แบบไร้สาย
  • ลำโพง Subwoofer ขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อแบบไร้สาย
  • ลำโพง Surround เชื่อมต่อแบบไร้สาย
  • การเชื่อมต่อ Optical, HDMI In , HDMI Out (eARC/ ARC), Bluetooth, Wi-Fi
  • มีฟีเจอร์ Q-Symphony ที่ใช้ได้กับทีวีซัมซุงเท่านั้น (บางรุ่น)
  • รองรับการเรียกใช้คำสั่งเสียงจาก Goolgle Assistant และ Amazon alexa
  • ควบคุมการทำงานด้วยรีโมทคอนโทรลจาก Samsung TV
  • Tap Sound แค่แตะมือถือซัมซุงเข้ากับซาวด์บาร์เพื่อเชื่อมต่อเล่นเพลง 
  • ราคาโดยประมาณ 26,900 บาท


JBL – Bar 9.1 True Wireless Surround with Dolby Atmos

JBL รุ่น Bar 9.1 True Wireless Surround with Dolby Atmos ลำโพงซาวด์บาร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ ด้วย ระบบเสียง 9.1 Dolby Atmos ดีไซน์เรียบเท่ ทันสมัย มีปุ่มควบคุมหลักด้านบนซาวด์บาร์ และด้านหน้าลำโพงจะมีไฟ LED แสดงผลสถานะ มีจุดเด่นที่สามารถ ถอดแยกชิ้นลำโพง Surround ออกจากตัวซาวด์บาร์หลักได้ สามารถนำจัดวางในทิศทางที่ต้องการได้อย่างอิสระ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพช่วยสร้างบรรยากาศและมิติของเสียงขณะดูหนังได้เป็นอย่างดี โดยให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง หรือถ้าหากต้องการฟังเพลงก็แนะนำให้ใช้งานแบบติดตั้งเข้ากับตัวซาวด์บาร์ปกติ ก็จะให้เสียงที่มีการขยายขอบเขตเวทีและมิติเสียงที่กว้างขึ้น ที่สำคัญตัวลำโพง Sufwoofer ก็ให้การเชื่อมต่อสัญญาณแบบไร้สายเช่นเดียวกัน มาพร้อมกับตัวขับเสียงย่านความถี่ต่ำขนาด 10 นิ้ว ให้เสียงเบสที่ลึกและหนัก เรียกได้ว่าสะเทือนพื้นห้องเลยทีเดียว สำหรับการถอดรหัสเสียงก็รองรับ ระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X ให้คุณภาพเสียงแบบโรงภาพยนตร์นั่นเอง

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 9.1 หรือ 5.4.1 3D Dolby Atmos
  • รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X
  • กำลังขับรวม 820 วัตต์
  • ลำโพง Surround สามารถถอดแยกชิ้นได้ เชื่อมต่อแบบไร้สาย แบตเตอรี่ 10 ชั่วโมง
  • ลำโพง Sufwoofer ขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อแบบไร้สาย
  • การเชื่อมต่อ HDMI In, HDMI Out (TV ARC), Etherent, Optical, USB, Wi-Fi, Bluetooth 4.2
  • รองรับระบบภาพ 4K HDR Passt – hrough ด้วย Dolby Vision
  • รองรับการส่งสัญญาณไร้สาย Google Chromecast และ Apple AirPlay 2
  • มีฟีเจอร์ Auto Calibration
  • มีรีโมทคอนโทรล
  • ราคาโดยประมาณ 32,900 บาท


Bose – Smart Soundbar 900

Bose รุ่น Smart Soundbar 900 ลำโพงซาวด์บาร์ รุ่นแรกที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos มีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวด้วยวัสดุตะแกรงโลหะครอบคลุมบริเวณด้านหน้าและด้านข้าง ส่วนบริเวณด้านบนจะใช้เป็นวัสดุกระจกคุณภาพพรีเมียม ให้ความสวยเงางาม หรูหรา ทันสมัย แต่อาจจะทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย ภายในตัวซาวด์บาร์จะประกอบไปด้วย ลำโพง 9 ตัว ที่ถูกจัดเรียงไว้ทั้งด้านหน้าและด้านบน โดยมีตัวขับเสียงที่ให้การกระจายเสียงแนวระนาบที่อาศัยการทำงานของ เทคโนโลยี PhaseGuide เอกสิทธิ์เฉพาะของ Bose ในการช่วยเพิ่มมวลเสียงและพลังเสียงที่กระหึ่ม พร้อมทั้งผสานกับตัวขับเสียง Dolby Atmos Enable Speaker ให้เสียงแนวดิ่งที่ยิ่งขึ้นด้านบนเพิ่มมิติเสียง Surround ที่โอบล้อมสมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี ฟีเจอร์ ADAPTiQ ที่สามารถปรับจูนเสียงเพื่อคำนวณความเหมาะสมการให้เสียงจากลำโพงในตำแหน่งนั่งฟังบริเวณนั้น ๆ ได้อย่างอัตโนมัติ เรียกได้ว่าเป็น ลำโพงซาวด์บาร์พรีเมียมที่เอาอยู่ในชิ้นเดียว ให้เสียงที่เกินตัวและเหนือความคาดหมาย เหมาะกับการดูหนังและการฟังเพลงได้หลากหลายแนวอีกด้วย

รายละเอียด

  • ระบบเสียง Dolby Atmos
  • มีเทคโนโลยี PhaseGuide เอกสิทธิ์เฉพาะที่จะช่วยเพิ่มเสียงที่ทรงพลัง
  • รองรับการระบบเสียงทั้งหมดจากค่าย Dolby Atmos
  • มีฟีเจอร์ ADAPTiQ ปรับจูนเสียงอัตโนมัติ
  • รองรับการฟังเพลงไร้สายผ่าน Chromecast, Apple AirPlay, Spotify และ Bluetooth
  • การเชื่อมต่อ Power, Bass, ADAPTiQ, HDMI (eARC), IR, DATA, Oprical In, Ethernet, Wi-Fi, และ Bluetooth 4.2
  • รองรับการเรียกใช้คำสั่งเสียงจาก Goolgle Assistant และ Amazon alexa
  • รองรับการใช้งานร่วมกับลำโพง Sufwoofer และ Surround แบบไร้สายของ Bose
  • สามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันของ Bose และ รีโมทคอนโทรล
  • มี 2 สี ให้เลือก คือ Black และ Arctic White
  • ราคาโดยประมาณ 37,900 บาท


Bowers & Wilkins – Paronama 3

Bowers & Wilkins รุ่น Paronama 3 ลำโพงซาวด์บาร์แบรนด์ไฮเอนด์จากประเทศอังกฤษ ที่ได้เปิดตัวใหม่ล่าสุดเป็น รุ่นแรกที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos จบในตัวเดียว มีขนาดที่เพรียวบาง พร้อมดีไซน์เหลี่ยมมุมที่สวยงาม พร้อมรองรับการติดตั้งเข้ากับผนังได้อีกด้วย ไฮไลท์คือการตรวจจับเซนเซอร์ของ Dispaly ที่เป็นวัสดุกระจกสีดำเงา เพียงแค่ทำการวาดมือผ่านก็จะมี ไฟแสดงผลหน้าจอปุ่มควบคุมหลัก ขึ้นมาทันที สามารถใช้งานกดสัมผัสได้จริง เป็นฟังก์ชันที่ให้ความทันสมัยและความหรูหรายิ่งขึ้น ภายในจะประกอบด้วย ลำโพง 13 ตัว ที่ทำงานประสานกันอย่างทรงพลังทั้งการกระจายเสียงด้านหน้าและด้านบน ให้มวลเสียงที่อิ่มแน่น มีมิติเสียงที่ชัดเจน ไม่จม สร้างบรรยากาศโอบล้อมที่น่าประทับใจได้ทั้งการดูหนังและฟังเพลง เหมาะกับพื้นที่ห้องขนาดกลาง รุ่นนี้จะไม่มีรีโมทคอนโทรลมาให้ เมื่อเชื่อมต่อทีวีกับซาวด์บาร์เข้าด้วยกันแล้ว ก็สามารถใช้รีโมททีวีควบคุมการทำงานซาวด์บาร์ได้เลย หรือจะเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันของ Music Bowers & Wilkins เพื่อควบคุมผ่านมือถือก็ได้เช่นกัน แต่มีข้อจำกัดคือรุ่นนี้ ม่สามารถรองรับการเสริมลำโพง Subwoofer และ ยังไม่รองรับระบบเสียง DTS:X อีกด้วย

รายละเอียด

  • ระบบเสียง Dolby Atmos 3.1.2 ch
  • ประกอบด้วยลำโพง 13 ตัว ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมทั้งดูหนังและฟังเพลง
  • กำลังขับรวม 400 วัตต์
  • Display มีระบบ Sensor Detect ในการแสดงปุ่มควบคุมหลัก
  • การเชื่อมต่อ HDMI (eARC), Ethernet, Power, USB Typ-C, Optical, Bluetooth 5.2, AptX Adaptive
  • รองรับการฟังเพลงไร้สายผ่าน Apple AirPlay, Spotify
  • รองรับการเรียกใช้คำสั่งเสียงจาก Amazon alexa
  • สามารถควบคุมการทำงานผ่านรีโมทของทีวี และแอปพลิเคชัน Music Bowers & Wilkins ผ่านมือถือได้
  • สามารถปรับจูนเสียงซาวด์บาร์ได้ด้วยเมนูอย่างง่าย 
  • ไม่สามารถเชื่อมต่อเพื่อเสริมลำโพง Sufwoofer ได้
  • ไม่รองรับระบบเสียง DTS:X
  • ราคาโดยประมาณ 49,500 บาท


Sony HT – G700

Sony รุ่น HT – G700 ลำโพงซาวด์บาร์รุ่นยอดฮิตที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos/ DTS:X และ Vertical Surround Engine ตัวซาวด์บาร์จะมีขนาดกำลังดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะกับการใช้งานพื้นที่ห้องขนาดเล็กไปจนถึงห้องขนาดกลาง ด้านบนซาวด์บาร์มีปุ่มควบคุมหลักแบบสัมผัส ดีไซน์ด้านหน้าจะเป็นวัสดุตะแกรงที่เป็นจอแสดงผลแบบ Digital พร้อมไฟแสดงสถานะการทำงาน ทั้งยังสามารถมองทะลุผ่านเห็นถึงตัวลำโพงด้านในที่ถูกจัดเรียงไว้ทั้งหมด 3 ตัว (ซ้าย กลาง ขวา) ที่มาด้วย ระบบเสียง 3.1 พิเศษด้วยลำโพงตรงกลางที่เป็น Center Channel Speaker เพิ่มความละเอียดและความชัดเจนของเสียงบทสนทนาทั้งการดูหนังและฟังเพลง ให้มีการรับฟังที่อิ่มเอมและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีพิเศษที่เรียกว่า Immersive Audio Enhancement ที่เพียงแค่กดปุ่ม Immersive AE ที่รีโมท ก็จะเป็นการเพิ่มระดับคุณภาพเสียงให้เป็น 7.1.2 ch จำลองบรรยากาศเสียงรอบทิศทาง 360 องศา ให้สัมผัสมิติโอบล้อมสมจริงแบบดูหนังในโรงภาพยนตร์ และต้องบอกเลยว่าซาวด์บาร์รุ่นนี้มีสเกลเสียงที่ใหญ่เกินตัว คุ้มค่ากับการใช้งานที่สามารถให้คุณภาพเสียงได้ดีทั้งการดูหนังและฟังเพลง

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 3.1 ch Dolby Atmos/ DTS:X
  • ลำโพงตัวกลาง Center Channel Speaker เพิ่มความคมชัดของเสียงสนทนา
  • ลำโพง Sufwoofer ขนาด 6.5 นิ้ว เชื่อมต่อแบบไร้สาย
  • กำลังขับรวม 400 วัตต์
  • Vertical Surround Engine เทคโนโลยีเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง 360 องศา
  • โหมด Immersive AE เพิ่มระดับการรับฟังคุณภาพเสียงโอบล้อมสมจริงแบบ 7.1.2 ch
  • การเชื่อมต่อ HDMI In, HDMI Out (eARC/ ARC), Optical, Bluetooth 5.0
  • รองรับระบบภาพ 4K Pass – through Dolby Vision
  • สามารถเลือกโหมดของเสียงได้หลากหลายรายการทั้งภาพยนตร์ เพลง เล่นเกม ฯลฯ
  • ราคาโดยประมาณ 19,900 บาท


Sonos – Ray

Sonos รุ่น Ray เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อ ผู้ที่เริ่มต้นใช้งานลำโพงซาวด์บาร์ ตอบโจทย์การใช้งานได้ง่ายถึงแม้จะเป็นทีวีรุ่นเก่า มีวิธีการเชื่อมต่อที่ไม่ยุ่งยาก เน้นใช้งานเพื่อดูหนังฟังเพลงทั่วไป ทั้งยังให้คุณภาพเสียงระดับใกล้เคียงรุ่นใหญ่ ด้วย ระบบเสียง 3.0 ch ภายในประกอบด้วยดอกลำโพง 4 ดอก แบบ Full range คู่ รวมทั้งยังใช้ Power Amp Class D 4 ในการควบคุม ที่สำคัญยังมีโครงสร้างของท่อนำเสียง (Waveguides) ในการนำทาง ส่งเสียงให้ได้บรรยากาศของเสียงที่กว้าง ทั้งยังรับรองรับ Dolby Digital ที่สามารถเพิ่ม Sufwoofer และ Surround ให้เป็นระบบเสียงแบบ 5.1 หรือ 5.0 ได้ เพื่อมิติเสียงที่โอบล้อมสมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งตัวซาวด์บาร์ก็มีความโดดเด่นในเรื่องของ ดีไซน์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ใช้สอย เหมาะกับห้องขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เน้นความสวยงาม เรียบหรู มินิมอล สามารถจัดวางหรือติดตั้งเข้ากับผนังเพื่อตกแต่งบ้านได้อย่างลงตัว ด้านบนตัวเครื่องจะมีแผงปุ่มควบคุมหลักแบบกดสัมผัส Touch Control หากฟังเพลงอยู่ก็สามารถเลือกเปลี่ยนรายการเพลงได้ง่ายๆ ด้วยแตะสัมผัสสไลด์ที่ตัวเครื่องซ้าย-ขวา เพื่อเล่นเพลงถัดไปหรือเล่นย้อนกลับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Sonos S2 ในการเลือกฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างเช่น Speech Enhancement หรือ Night Mode ได้อีกด้วย

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 3.0 ch ไม่รองรับ Dolby Atmos
  • รองรับระบบเสียง 5.1/ 5.0 Dolby Digital
  • มีเทคโนโลยี Trueplay เอกสิทธิ์เฉพาะ Sonos สามารถปรับจูนเสียงให้ดีขึ้นตามลักษณะของพื้นที่หรือขนาดของห้องนั้น ๆ ได้อัตโนมัติ (ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ iOS เท่านั้น)
  • การเชื่อมต่อ LAN, Optical, Power, Setup
  • รองรับการใช้งานผ่าน Sonos S2 App, Wi-Fi, Apple AirPlay2, Spotify Connect
  • มีฟีเจอร์ Speech Enhancement เน้นเสียงสนทนาให้คมชัดมากยิ่งขึ้น
  • มีฟีเจอร์ Night Mode ปรับเสียงรบกวนขณะดูหนังหรือรายการทีวี
  • ใช้งานได้แบบ Muti – Room
  • ใช้งานรีโมททีวีในการควบคุมเมื่อเชื่อมต่อซาวด์บาร์เข้ากับทีวี
  • มี 2 สี ให้เลือก คือ สีดำ และ สีขาว 
  • ราคาโดยประมาณ 17,900 บาท


Klipsch – Cinema 800 5.1 + Surround 3

Klipsch รุ่น Cimema 800 5.1 + Surround 3 หากคุณติดขัดเรื่องงบประมาณในการซื้อรุ่นท็อปของซีรี่ส์นี้ ลำโพงซาวด์บาร์ตัวนี้สามารถให้เสียงที่ทดแทนในระดับที่รองลงมาได้อย่างดีเลยทีเดียว ตัวซาวด์บาร์ดีไซน์จากวัสดุไม้ที่เอื้อต่อคุณภาพเสียง ด้านหน้าสามารถแสดงผลตัวอักษรขนาดใหญ่เรืองแสงได้ชัดเจน ให้ ระบบเสียง Dolby Atmos 5.1 ภายในมีโครงสร้างการขับเสียงที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Klipsch แบบ Tractix® Horns ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายทอดย่านเสียงสูงให้ครอบคลุมพื้นที่รับฟังอย่างทั่วถึง และให้เสียงกลางที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติอีกด้วย ส่วนทางด้านของลำโพง Sufwoofer จะใช้ตัวขับเสียงขนาด 10 นิ้ว ให้เสียงเบสที่กระหึ่มสมจริง ลงได้ลึกถึงใจ สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้ทั้งแบบใช้สายและไร้สาย มาพร้อมกับลำโพง Surround 3 อีก 1 คู่ ที่หากเมื่อเชื่อมต่อแล้วจะสามารถ จำลองการถอดรหัสเสียงสูงสุดถึง Dolby Atmos 7.1.4 เรียกได้ว่าหากใครชอบดูหนังแอคชั่นที่มีเสียงเอฟเฟคเยอะ ๆ รับรองว่าสนุกสะใจอย่างแน่นอน บอกได้เลยว่ารุ่นนี้ก็โหดไม่แพ้รุ่นท็อปเลยทีเดียว

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 5.1 Dolby Atmos ด้วยลำโพง Surround 3
  • มีโครงสร้างจัดวางการขับเสียงแบบ Tractix® Horns เอกสิทธิ์เฉพาะของ Klipsch
  • ลำโพง Sufwoofer ขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
  • ลำโพง Surround 3 เชื่อมต่อแบบไร้สาย
  • กำลังขับรวม 860 วัตต์
  • การเชื่อมต่อ HDMI In 2 ช่อง, HDMI Out (eARC), Aux 3.5, Digital Optical, SUB, Bluetooth, Wi-Fi, Ethernet
  • รองรับระบบภาพ 8K HDR Pass – through
  • รองรับการเรียกใช้คำสั่งเสียงจาก Goolgle Assistant และ Amazon alexa
  • รีโมทคอนโทรลแบบ Motion Sensing ปุ่มกดเรืองแสงได้เมื่อมีการขยับ
  • ราคาโดยประมาณ 54,800 บาท


Devialet – Dione

Devialet รุ่น Dione ลำโพงซาวด์บาร์ตัวแรกจากแบรนด์ไฮเอนด์สัญชาติฝรั่งเศส ที่เชื่อว่าหลายคนกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ ด้วย ราคาที่ค่อนข้างสูง สำหรับซาวด์บาร์ที่จบในตัวเดียว แต่ก็สมราคาด้วยดีไซน์ที่ล้ำหน้าและมาตรฐานเทคโนโลยีการออกแบบเสียงขั้นสูงระดับสุดยอด ตัวซาวด์บาร์มีดีไซน์สุดล้ำแปลกตาไม่เหมือนใคร ด้านบนเป็นอะลูมิเนียมสีดำด้าน ผสมวัสดุผ้าบุลำโพงถักละเอียดด้านหน้า มีความเรียบหรู พรีเมียม โดดเด่นด้วยลำโพงทรงกลม ORB ตรงกลาง ซึ่งเป็น Center Channel ที่สามารถหมุนปรับทิศทางให้เสียงได้ตามการติดตั้งของตำแหน่งซาวด์บาร์ ภายในซาวด์บาร์ประกอบด้วย ไดรเวอร์ขับเสียง 17 ตัว แบ่งเป็น Long – Throw Sufwoofers 8 ตัว และ Full – Range 9 ตัว ให้การกระจายเสียงครบทุกทิศทาง ผสานเทคโนโลยี SPACE ให้ ระบบเสียง 5.1.2 ch และรองรับ Dolby Atmos ให้มิติเสียงที่กว้างดีเยี่ยม เสียงคมชัด กระหึ่มหนักแน่น เก็บรายละเอียดครบทุกย่านเสียง ไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลงก็ให้ความรู้สึกที่เต็มอิ่มล้ำลึกอย่างไร้ที่ติจริง ๆ พร้อมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อและการใช้งานที่ทันสมัยครบครันอีกด้วย

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 5.1.2 ch รองรับ Dolby Atmos
  • กำลังขับ 950 วัตต์ / SPL 101 เดซิเบล เสียงกระหึ่มทรงพลัง
  • การเชื่อมต่อ HDMI ARC/ eARC, Optical TOSLINK, Ethernet, Bluetooth 5.0, Wi-Fi (Dual – Band 2.5 GHz & 5 GHz)
  • รองรับ Hi – Res Audio 24-bit/ 96 kHz
  • รองรับ AirPlay 2, Sptify Conncect, Devialet Application
  • เทคโนโลยี SPACE ขยายสัญญาณให้เป็น 5.1.2 ch
  • เทคโนโลยี AVL ปรับระดับเสียงให้คงที่ตลอดเวลาเพื่อการรับฟังทุกย่านเสียงอย่างครบถ้วน
  • เทคโนโลยี ADE ประมวลเสียงให้ดีและสมจริงยิ่งขึ้น
  • ตั้งค่าและควบคุมลำโพงผ่านแอปพลิเคชัน Devialet
  • รองรับการทำงานแบบ Multi – Room
  • ไม่มีรีโมทให้ สามารถควบคุมการทำงานผ่านแผงปุ่มควบคุมที่ซาวด์บาร์, แอปพลิเคชัน Devialet, รีโมททีวีเมื่อเชื่อมต่อทีวีเข้ากับซาวด์บาร์
  • มีฟีเจอร์ Room Calibration สแกนพื้นที่ห้องเพื่อปรับจูนเสียงให้เหมาะกับขนาดห้องมากที่สุด
  • ราคาโดยประมาณ 95,900 บาท


Creative – Stage 360

ปิดท้ายกันด้วยลำโพงซาวด์บาร์ราคาประหยัด Creative รุ่น Stage 360 ตัวใหม่ล่าสุดที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos 5.1.2 ch ให้สัมผัสเสียงในการดูหนังแบบรอบทิศทางได้ใน ราคาหลักพันเท่านั้น ตัวซาวด์บาร์มีดีไซน์ความยาวเพียง 55 เซนติเมตร ช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งาน (Space Saving Design) ด้านบนมีปุ่มควบคุมหลักพร้อมกับไฟแสดงสถานะทางด้านหน้า ภายในจะถูกประกอบด้วยไดรเวอร์ที่ได้รับการปรับจูนในรูปแบบใหม่ ให้รายละเอียดเสียงที่คมชัดและมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ทางด้านตัว Subwoofwer เป็นแบบ Long – Throw เพิ่มย่านเสียงเบสให้มีความแน่นและลึก ให้เสียงที่กระหึ่มพอสมควร สามารถใช้ดูทีวี ดูหนัง เล่นเกม และฟังเพลงได้อย่างสบาย ๆ พร้อมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายตอบโจทย์ความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าเป็นลำโพงซาวด์บาร์ตัวเล็กที่เหมาะกับการใช้งานทีวีขนาดเล็ก – ขนาดกลาง ในพื้นที่ที่ไม่กว้างมาก ทั้งยังมีประสิทธิภาพการใช้งานที่คุ้มค่าคุ้มราคาอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาลำโพงซาวด์บาร์เสียงดี ราคาไม่แพง ใช้งานง่าย แนะนำรุ่นนี้เลย

รายละเอียด

  • ระบบเสียง 5.1.2 ch รองรับ Dolby Atmos
  • ลำโพง Subwoofer แบบ Long – Throw สามารถเชื่อมต่อทั้งมีสายและไร้สาย
  • กำลังขับ 120 วัตต์ ได้สูงสุด 240 วัตต์
  • การเชื่อมต่อ HDMI ARC, HDMI 2.0 2 ช่อง, Optical In, Sub Out, USB, AC In, Bluetooth 5.0
  • มีรีโมทคอนโทรลรวมการสั่งงานที่ครบถ้วน
  • สามารถปรับโหมดการใช้งานให้ตรงตามความต้องการได้
  • สามารถปรับเสียงเบสผ่านรีโมทได้อย่างง่าย
  • ราคาโดยประมาณ 6,990 บาท


สำหรับใครที่กำลังมองหาลำโพงซาวด์บาร์สำหรับต่อทีวีเพื่อดูหนังและฟังเพลงอยู่ละก็ ในกรณีที่เรามีทีวีอยู่แล้ว แนะนำว่าควรตรวจสอบขนาดของทีวี ขนาดพื้นที่ห้อง ตำแหน่งการติดตั้ง และการรองรับช่องเชื่อมต่อ ที่มีความสัมพันธ์หรือความสอดคล้องกับลำโพงซาวด์บาร์ที่จะเลือกซื้อด้วย เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด และถ้าจะให้ดีก่อนทำการตัดสินใจเลือกซื้อลำโพงซาวด์บาร์สักตัวนั้น ควรที่จะหาโอกาสไปทดสอบเสียงด้วยตนเองหรือสืบค้นหารีวิวต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเรามีรสนิยมและความชื่นชอบทางการให้เสียงแบบใด มีฟังก์ชันและการใช้งานที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของเราหรือไม่ เพื่อได้ลำโพงซาวด์บาร์ที่เหมาะสมกับเราที่สุดนั่นเอง สามารถติดตามบทความได้ใหม่ทาง www.za.in.th

radaboot.p
Author: radaboot.p

Share this Article