การลงทุนในทองคำ ทั้งการลงทุนโดยตรงและลงทุนผ่านกองทุนรวม

1 Min Read

การลงทุนทองคำทำได้หลายแบบแต่ที่เหมาะกับมือใหม่จริง ๆ แนะนำอยู่ 2 แบบ คือ คุณจะเดินไปซื้อที่ร้านทองด้วยตัวเองหรือจะซื้อผ่านกองทุนรวมทองคำก็ได้ ซึ่งจะมาบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบให้ฟัง คุณจะได้เลือกได้ว่าควรจะลงทุนในรูปแบบใด

การลงทุนโดยตรงผ่านการซื้อทองคำจากร้านทอง

คุณสามารถเดินเข้าไปในร้านทองและซื้อทองคำโดยตรงด้วยตัวเองได้เลย ซึ่งคุณอาจเลือกเก็บรักษาได้ในรูปแบบ สัญญาถือครองหรือตั๋วทอง, ซื้อทองคำมาเก็บรักษาเอง หรือฝากไว้กับร้านทองที่ไว้ใจได้ โดยถ้าซื้อทองคำแท่งน้อยกว่า 5 บาท จะต้องเสียค่าบล็อกเป็นราคา 2% ของราคาทองด้วย นอกจากนี้ร้านทองในปัจจุบันยังมีบริการซื้อทองแบบ “ออมทอง” คือการให้คุณซื้อทองเป็นการเก็บออมได้ในจำนวนเงินทีละน้อย ๆ ขั้นต่ำเพียงเดือนละ 1,000 บาท โดยจะได้ปริมาณทองตามราคาตลาดในวันที่ “ออม” เก็บสะสมไปเรื่อย ๆ จนครบบาทก็สามารถ ”ถอน” ทองที่ออมไว้จากร้านในรูปแบบทองคำแท่ง หรือขายคืนเป็นเงินสดเพื่อทำกำไรก็ได้

หัวใจของการลงทุนทองคำก็คือการทำกำไรจากส่วนต่าง คือ การขายทองคำเมื่อราคาทองในตลาดสูงกว่าตอนที่เราซื้อ โดยราคาในการซื้อขายทองคำแท่งตามประกาศของสมาคมค้าทองคำฯ ในวันเดียวกันราคาขายจะสูงกว่าราคารับซื้อคืน อย่างน้อย 100 บาท ซึ่งเมื่อคิดรวมส่วนต่างราคาซื้อขาย ค่ากำเหน็จ และค่าบล็อกต่าง ๆ แล้ว การจะทำกำไรจากการซื้อทอง ควรจะต้องขายเมื่อราคาทองสูงขึ้นอย่างน้อย 300-500 บาท ยกตัวอย่างง่าย ๆ  เช่น เราซื้อทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท ตอนที่ราคาทองในตลาดอยู่ที่ 19,000 บาท เสียค่าบล็อก 300 บาท รวมราคาซื้อ 19,300 บาท และตัดสินใจขายตอนที่ราคาทองในตลาดอยู่ที่ 21,000 บาท จะทำให้เราได้กำไรจากส่วนต่างรวม 1,700 บาท ทั้งนี้การจะทำกำไรให้ได้สูงสุดนั้น เราจะต้องดูราคาทองในตลาดและคาดคะเนความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยปกติแล้วเมื่อราคาทองคำสูงขึ้น 2-5% คนมักจะเทขาย ซึ่งการเทขายก็ควรมีทองคำในครอบครองประมาณ 10-20 บาทเป็นอย่างน้อย ถึงจะคุ้มค่า

การลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ

กองทุนรวมจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนนำเงินไปลงทุนในทองคำแทนเรา ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการและการถือครองที่ผู้ลงทุนต้องศึกษาให้รอบคอบ การลงทุนผ่านกองทุนรวมนี้คุณไม่ต้องเดินไปซื้อทองคำที่ร้านทองด้วยตัวเองให้เหนื่อยแต่คุณสามารถติดต่อผ่านกองทุนที่คุณต้องการจะลงทุนได้เลย โดยการลงทุนผ่านกองทุนรวมถือเป็นวิธีที่ง่ายและใช้งบน้อย ที่สำคัญไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญมากก็สามารถลงทุนได้ เพราะแต่ละกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องการลงทุนให้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องคอยคาดคะเนปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลถึงความน่าเชื่อถือ หรือความผันผวนของราคาระหว่างร้านทองแต่ละร้าน นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนระหว่างการลงทุนไม่ว่าจะในรูปของเงินปันผล (ซึ่งจะมีภาษี ณ ที่จ่าย 10%) หรือในรูปของกำไรจากส่วนต่างในมูลค่าหน่วยลงทุน (Capital Gain) ซึ่งไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย

สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นลงทุนในทองคำจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนตลอดเวลาตามปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ และนโยบายการเงินของธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลก ดังนั้นการลงทุนในทองคำจึงมีความเสี่ยงเหมือนกับการลงทุนในด้านอื่น ๆ ซึ่งผู้ลงทุนจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบ ตัดสินใจเลือกรูปแบบการลงทุนทองคำที่เหมาะกับตัวเอง ที่สำคัญเงินที่จะนำมาใช้ลงทุนควรเป็นเงินเย็น คือ เงินที่ไม่ได้จำเป็นต้องนำไปใช้อะไร เป็นเงินส่วนที่เหลือจากการวางแผนการเงินเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ เพราะว่าการใช้เงินเย็นจะช่วยให้ลงทุนเพื่อเกร็งกำไรได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น อาจจะต้องขายทองคำแบบขาดทุนหรือได้กำไรน้อยกว่าที่ควรเพื่อนำเงินมาหมุน คุณเองก็จะสามารถประสบความสำเร็จจากการลงทุนทองคำได้ไม่ยาก หากข้อมูลพร้อม เงินพร้อม ก็ลุยต่อได้เลย

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่