ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น A Big Surprise

1 Min Read

STEC รายงานกำไรสุทธิ 4Q62 อยู่ที่ 600 ล้านบาท ลดลง 6%YoY แต่เพิ่มขึ้น 121%QoQ แต่หากหักรายการกำไรพิเศษจากการตีมูลค่ายุติธรรมสินทรัพย์ กำไรตามปกติ (Normalized Profit) จะอยู่ที่ 486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%YoY และ 44%QoQ ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะของกำไรปันส่วนตามความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าคาด โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อรายได้ (SG&A-to-Sale ratio) ลดลงอยู่ที่ 1.1% เทียบกับ 4Q61 และ 3Q62 ที่ 1.9% และ 1.3% ตามลำดับ ทั้งนี้กำไรสุทธิรวมปี 2562 อยู่ที่ 1,484 ล้านบาท ลดลง 8%YoY แต่หากตัดรายการพิเศษออก กำไรจะ เพิ่มขึ้น 11% YoY

ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 – 2564 ขึ้นราว 14.3% และ 19.6% ตามลำดับ จากการปรับเพิ่มสมมติฐานกำไรปันส่วนขึ้น ตามความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพูแบบ S-Curve ซึ่งเป็นปกติของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม เรามีการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin; GPM) ลงจากเดิมที่ 6.0% และ 5.8% ในปี 2563 และปี 2564 ลงมาที่ 5.1% และ 4.9% ตามลำดับ เนื่องจากคุณภาพงานก่อสร้างที่ต่ำกว่าคาด โดยรวมประมาณกำไรสุทธิปี 2563 – 2564 ใหม่ได้ 1,461 ล้านบาท และ 1,599 ล้านบาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยเราได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 – 2564 ขึ้นตามความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายที่มาเร็วกว่าคาด นอกจากนี้ STEC ยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติม จากการเป็นผู้ชนะโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งคาดว่าจะหนุน Backlog เพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 2 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ของบริษัท จากที่กล่าวมา ทำให้เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 18.00 บาทเป็น 20.00 บาท อิงค่า PER กลุ่มอุตสาหกรรมที่ 20 เท่า

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่