By using this site, you agree to the Privacy Policy and Terms of Use.
Accept

Online Community of Thailand.

  • หน้าแรก
  • หมวดหมู่
    • ไลฟ์สไตล์
    • รีวิว
    • การเงิน & การลงทุน
    • บันเทิง
Reading: บัญชีหลักทรัพย์แต่ละประเภท เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเรา
Share
Aa

Online Community of Thailand.

Aa
Search
  • หน้าแรก
  • หมวดหมู่
    • ไลฟ์สไตล์
    • รีวิว
    • การเงิน & การลงทุน
    • บันเทิง
Have an existing account? Sign In
Follow US
ZaWebsite > การเงิน & การลงทุน > บัญชีหลักทรัพย์แต่ละประเภท เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเรา
การเงิน & การลงทุน

บัญชีหลักทรัพย์แต่ละประเภท เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเรา

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Last updated: 2020/03/14 at 10:24 PM
ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย Published 14/03/2020
Share
1 Min Read
SHARE

สารบัญ
1. บัญชีวางเงินล่วงหน้า (Cash Balance) หรือซื้อหุ้นได้เท่ากับเงินที่มีในบัญชี2. บัญชีเงินสด (Cash Account) ที่สามารถสั่งซื้อหลักทรัพย์ได้ก่อน และค่อยจ่ายเงินทีหลัง3. บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance Account) หรือบัญชีมาร์จิ้นที่สามารถยืมเงินโบรกเกอร์มาซื้อหุ้นแต่ละบัญชีต่างมีข้อดี ข้อด้อยที่ต่างกันไป การเลือกบัญชีควรขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และที่สำคัญ คือ นักลงทุนต้องมีความรู้ ความเข้าใจในบัญชีที่จะเลือกใช้Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

การซื้อขายหลักทรัพย์หรือซื้อขายหุ้นนั้น นักลงทุนต้องมีบัญชีหลักทรัพย์สำหรับการซื้อขายที่เปิดกับโบรกเกอร์ ซึ่งปัจจุบันบัญชีซื้อขายหุ้นนี้ก็จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ที่แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันประกอบด้วย บัญชีวางเงินล่วงหน้า (Cash Balance), บัญชีเงินสด (Cash Account) และบัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance Account) หรือ บัญชีมาร์จิ้น

1. บัญชีวางเงินล่วงหน้า (Cash Balance) หรือซื้อหุ้นได้เท่ากับเงินที่มีในบัญชี

เป็นบัญชีที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ เพราะมีหลักการตรงไปตรงมาครับ นั่นก็คือ มีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ก็ใช้ซื้อหุ้นได้เท่านั้น นอกจากจะเข้าใจง่ายแล้ว อีกหนึ่งข้อดี คือ เป็นการจำกัดวงเงินการซื้อหุ้นของเราด้วยจำนวนเงินที่เรามีในบัญชีหุ้นนั่นเอง หากต้องการซื้อหุ้นด้วยมูลค่ามากกว่าเงินที่มีในบัญชี เราต้องโอนเงินเข้าบัญชีก่อนส่งคำสั่งซื้อหุ้น เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ สามารถเปิดบัญชีได้ง่าย อนุมัติไว ไม่ต้องใช้ statement ย้อนหลัง และไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ (กรณีซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต และสมัครใช้บริการ E-request)

2. บัญชีเงินสด (Cash Account) ที่สามารถสั่งซื้อหลักทรัพย์ได้ก่อน และค่อยจ่ายเงินทีหลัง

สำหรับบัญชี Cash Account โบรกเกอร์จะพิจารณาวงเงินในการเทรดหุ้นจากหลักฐานทางการเงินของผู้ขอเปิดบัญชี ซึ่งก่อนที่จะส่งคำสั่งซื้อหุ้นได้ นักลงทุนจะต้องวางเงินประกัน 20% ของวงเงินที่ต้องการจะเทรด หรืออาจจะวางเงิน 20% ของวงเงินอนุมัติ เช่น ได้รับวงเงินอนุมัติ 100,000 บาท เราต้องวางเงินประกัน 20,000 บาท และเมื่อเมื่อสั่งซื้อหุ้นเราต้องโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อชำระค่าหุ้นภายในวันที่ T+3 ลักษณะคล้าย ๆ กับบัตรเครดิต คือ สั่งซื้อได้ก่อน แล้วโอนเงินชำระค่าหุ้นภายในเวลาที่กำหนด เหมาะสำหรับ นักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องในการวางหลักประกัน โดยวางหลักประกัน 20% ของวงเงิน และชำระเงินค่าหุ้นอีก 2 วันทำการถัดไป

3. บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Credit Balance Account) หรือบัญชีมาร์จิ้นที่สามารถยืมเงินโบรกเกอร์มาซื้อหุ้น

บัญชี Credit Balance เหมาะกับนักลงทุนระดับ Advance ครับ เป็นบัญชีที่นักลงทุนสามารถกู้ยืมเงินของโบรกเกอร์มาซื้อหุ้น ซึ่งหุ้นที่จะซื้อได้ต้องอยู่ในรายชื่อหุ้นที่บริษัทฯ กำหนดไว้เท่านั้นครับ แต่หากนักลงทุนต้องการซื้อหุ้นตัวอื่น ๆ นอกจากที่กำหนดไว้ก็ทำได้เช่นกัน แต่จะต้องซื้อขายผ่านบัญชีเงินสดแทน และด้วยความที่เป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืม ทางโบรกเกอร์จึงมีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการซื้อขายของบัญชีประเภทนี้มากกว่าบัญชีประเภทอื่น ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการผิดนัดชำระจากนักลงทุน บัญชี Credit Balance มีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่ข้อดี คือ เป็นการเพิ่มอำนาจในการลงทุน หรือทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้มากกว่าเงินลงทุนที่มีนั่นเองครับ โดยทั่วไปแล้ว ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย หรือค่า Commission ของแต่ละบัญชีจะไม่เท่ากัน รวมถึงบัญชีของแต่ละโบรกเกอร์อาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันด้วย นักลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกเปิดบัญชีครับ จะเห็นได้ว่า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มอำนาจซื้อหุ้น โดยใช้เงินหรือหลักทรัพย์มาวางเป็นหลักประกันร่วมกับการกู้ยืมเงินจากบริษัทฯ นักลงทุนที่มีประสบการณ์และมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี หรือลูกค้าเดิม ที่มีบัญชีประเภท Cash Balance หรือ Cash Collateral โดยมีการซื้อขายมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน

แต่ละบัญชีต่างมีข้อดี ข้อด้อยที่ต่างกันไป การเลือกบัญชีควรขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และที่สำคัญ คือ นักลงทุนต้องมีความรู้ ความเข้าใจในบัญชีที่จะเลือกใช้

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

TAGGED: Cash Account, Cash Balance, Credit Balance Account, บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์, บัญชีวางเงินล่วงหน้า, บัญชีหลักทรัพย์, บัญชีเงินสด
ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย 14/03/2020
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
By ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

รีวิวฮอตประจำเดือน

15 หูฟังมีสาย ยี่ห้อไหนดี 2024 ฟังเพลงได้ทุกที่ ทุกเวลา แบบไม่ต้องชาร์ตแบต 
รีวิว
10 เครื่องดื่มบำรุงสมองในเซเว่น ยี่ห้อไหนดี 2024 ดื่มง่าย ช่วยเพิ่มความจำ
รีวิว
รีวิว 15 วิตามินบำรุงผิวขาว ลดความหมองคล้ำ คืนความกระจ่างใส ยี่ห้อไหนดี ปีล่าสุด 2024
รีวิว ไลฟ์สไตล์
แนะนำ 12 กระเป๋าไปมหาลัย ยี่ห้อไหนดี 2024 สะพายเก๋ จุของได้
รีวิว
ใหม่ Honda Wave 125i 2018-2019 ฮอนด้าเวฟ 125 ไอ รีวิว ราคา ตารางผ่อน-ดาวน์
มอเตอร์ไซค์
10 ลูกอมดับกลิ่นปาก 2024 เย็นหอมสดชื่น ลมหายใจเฟรช ยี่ห้อไหนดี
รีวิว
ZaWebsiteZaWebsite
Follow US

Copyright © 2023 ZA.in.th

Removed from reading list

Undo