CPAll ซื้อเทสโก้ ไม่เหนือความคาดหมาย ขึ้นแท่นผู้นำในธุรกิจค้าปลีก

1 Min Read

CP All ซื้อเทสโก้ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ซึ่งอาจจะกระทบระยะสั้น แต่เป็นบวกในระยะยาว กำไรของ CPALL จะถูกกระทบจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมมาลงทุน แต่ในระยะยาวคาดจะเป็ นบวกจากการมีธุรกิจค้าปลีกที่หลายหลาย กลายเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่หลากหลายยเป็นผู้นำทั้งในธุรกิจค้าส่งภายใต้ MAKRO, ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตภายใต้เทสโก้ ซึ่งเทสโก้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยมี 214 สาขา ตลาดโลตัส 179 สาขา และ Tesco Express 1,574 สาขา (คาดว่าจะเปลี่ยนเป็นร้านเซเว่นฯ ในอนาคต) พื้นที่เช่าใน 191 สาขา บนพื้นที่เกือบ 1 ล้านตารางเมตร ซึ่งทำให้ได้รับค่าเช่าซึ่งเป็นรายได้ที่มีความสม่ำเสมอ อีกทั้งคาดว่าจะทำให้เกิด Synergy ในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการต่อรองกับซัพพลายเออร์
นอกจากนั้นยังมีโอกาสขยายธุรกิจค้าปลีกในมาเลเซียที่มีไฮเปอร์มาร์เก็ต 46 สาขา

CPALL ได้ดำเนินการเข้าลงทุนในเทสโก้ประเทศไทยและเทสโก้มาเลเซีย โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นดังนี้ (1) บจ. เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง ถือหุ้น 40% เงินลงทุน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2) บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) ถือหุ้น 40% เงินลงทุน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ (3) บจ. ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง (บริษัทย่อย CPF) ถือหุ้น 20% เงินลงทุน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยใช้เงินลงทุนทั้งหมด 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 240,000 ล้านบาท โดยมูลค่าของกิจการเทสโก้ ประเทศไทยและเทสโก้ มาเลเซียในเบื้องต้นประมาณ 10,576 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 338,445 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ในวันที่ 9มี.ค. 63 บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีการทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากกระบวนการต่าง ๆ ยังไม่เสร็จสิ้น บริษัทยังต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของเทสโก้ รวมไปถึงการอนุมัติจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.)และกระทรวงการค้าภายในและกิจการผู้บริโภคของประเทศมาเลเซีย โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ในปี 2563 นี้

ภาพรวมของเทสโก้ในประเทศไทยและเทสโก้มาเลเซีย ข้อมูลงบการเงิน ณ สิ้นงบปี 2562 (ก.พ. 62) เทสโก้ ประเทศไทยมีรายได้รวมอยู่ที่ 188,600 ล้านบาท ลดลง 4.1%YoY และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,800 ล้านบาท ลดลง 18.8%YoY ขณะที่ ณ สิ้นงบปี 2562 (ก.พ. 62) เทสโก้มาเลเซีมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,383 ล้านริงกิตมาเลเซียทรงตัวจากปี 2561 และขาดทุนสุทธิ 44 ล้านริงกิตมาเลเซีย โดยทั้งเทสโก้ ประเทศไทย และเทสโก้ มาเลเซียมีรายได้หลักจาก (1) ค้าปลีก ได้แก่ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต (ตลาดเทสโก้) และเทสโก้ เอ็กซ์เพรส และ (2) พื้นที่เช่าในห้างสรรพสินค้า

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่