เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ เปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 19 พ.ค.นี้ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเบเกอรี่

1 Min Read

NSL บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเบเกอรี่และอาหารรองท้อง, ขนมขบเคี้ยวหรือ “Snack” และธุรกิจ Food Services (การแปรรูปเนื้อสัตว์) จำนวนหุ้นที่ IPO จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หุ้น คิดเป็น 25.00% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ระยะเวลาเสนอขายหุ้น 11-13 พฤษภาคม 2564 ราคา IPO 12.00 บาท และราคา PAR 1.00 บาท มีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีการวางทิศทางธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยในปีนี้จะมีการขยายการลงทุนในธุรกิจสแน็กภายใต้แบรนด์ NSL และกลุ่มธุรกิจฟูด เซอร์วิส ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าหลังการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ มีความเข้มแข็งมากขึ้น พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 16% และตั้งเป้ายอดขาย 6,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า หุ้น NSL มีกำหนดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “NSL” ในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50.0% อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ฐานะการเงิน สภาพคล่องทางการเงิน ความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อบริการกิจการ และขยายธุรกิจของ NSL รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้น

NSL ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป เช่น แซนด์วิชอบร้อน เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว วางจำหน่ายตามร้าน 7-11 และเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเนื้อสัตว์ ผักแช่แข็ง โดยแบ่งธุรกิจได้ 4 ประเภท ได้แก่ 1) เบเกอรี่แบรนด์ของ 7-11 ที่ NSL ผลิตให้ 2) แบรนด์ขนมขบเคี้ยวที่ NSL พัฒนาเอง 3) ธุรกิจ Food Service นำเข้าและแปรรูปเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักแช่แข็ง พร้อมนำไปประกอบอาหาร และ 4) รับจ้างผลิตเบเกอรี่ หรือ OEM บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทฯ โดยบริษัทจะลงทุนในเครื่องจักรและก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งจะเน้นการผลิต 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน อาหารพร้อมรับประทานแบบไม่ต้องแช่เย็น และ อาหารแห้งกึ่งสำเร็จรูป โดยมุ่งเน้นตลาดในประเทศเป็นหลักและขยายสู่ตลาดทั่วโลกต่อไป นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนยังจะช่วยปรับโครงสร้างทางการเงินจากการชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และ เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 24 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงวันที่ 31 ธ.ค.63) ซึ่งเท่ากับ 151.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขาย IPO คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (fully diluted EPS) เท่ากับ 0.50 บาท โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย NSL มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ สภาพคล่องทางการเงิน ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นใดในอนาคต และปัจจัยอื่นๆ

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่