DRT ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หุ้นหลังคา ผนัง ฝ้า เข้าร่วมดัชนี sSET

2 Min Read

DRT ผลิตภัณฑ์ตราเพชร  เข้ามาอยู่ใน sSET ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ได้ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี sSET โดยมีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 15 หลักทรัพย์ ได้แก่ AMANAH, ANAN, BA, BEAUTY, DRT, EPCO, LALIN, PLAT, RPH, SABINA, SAMTEL, SIRI, SMPC, TAE & ZEN วันที่เราจึงมาทำความรู้จักกับ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลังคา แผ่นผนังและฝ้า ไม้สังเคราะห์ อย่าง DRT ผลิตภัณฑ์ตราเพชร 

DRT : บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจ วัสดุก่อสร้าง เริ่มต้นซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ 29 พ.ย. 2548 ที่ราคาพาร์1.00 บาท ด้วยทุนจดทะเบียน 947,961,800.00 บาท เป็นจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 947,961,800 หุ้น ลักษณะธุรกิจ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลังคา แผ่นผนังและฝ้า ไม้สังเคราะห์ รวมทั้งสินค้าประกอบการติดตั้งหลังคาและสินค้าโครงสร้างของบ้าน พร้อมให้บริการถอดแบบและติดตั้งหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า ตราเพชร ตราหลังคา ตราอดามัส และตราเจียระไน

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อันดับ 1 คือ บริษัท มายเรียด วัสดุ จำกัด ถือถึง 58.85 % เป็นHolding Company เพื่อลงทุนในบริษัทโดยเฉพาะ มีกลุ่มนายชัยยุทธ ศรีวิกรม์ กลุ่มนายประกิต ประทีปะเสน และกลุ่มคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดย DRT มีประกิต ประทีปะเสนเป็นประธานกรรมการ

มีการวิเคราะห์กันว่า แนวโน้ม บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ยังไปได้ดี! เชื่อว่าผลประกอบการยังเติบโต โดยเฉพาะคาดในไตรมาส 4/2562 ยังจะทำกำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีวันหยุดมากในเดือนธันวาคมก็ตาม

เนื่องด้วยบริษัทมีการเร่งทำยอดขายในต่างประเทศให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในประเทศอย่างต่อเนื่อง

วิสัยทัศน์

“เป็นทางเลือกที่ดีกว่าด้านวัสดุก่อสร้างและบริการ”

พันธกิจ

“เราอยู่ในธุรกิจของการผลิต การจัดจำหน่าย รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับ กระเบื้องหลังคา ผนัง และอุปกรณ์ประกอบ เราเชื่อว่าการประกอบธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและรับผิดชอบต่อสังคมจะเป็นพื้นฐานตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า พนักงาน สังคม และผู้ถือหุ้นของเรา สู่ความสำเร็จต่อพันธกิจของเรา

– สำหรับลูกค้าของเรา เราจะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและการออกแบบที่แตกต่างอย่างมีคุณค่าในราคาที่แข่งขันได้ โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนให้บริการที่เป็นเลิศกับลูกค้า ด้วยช่องทางจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และระบบการบริหารจัดการที่มีความสามารถของเรา
– สำหรับพนักงานของเรา เราจะสร้างและส่งเสริมสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน รวมถึงครอบครัวของพนักงาน เพื่อให้พนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพ ได้อย่างเต็มความสามารถ
– สำหรับสังคมของเรา เราจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือสังคมที่เราอยู่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยตระหนักว่า สังคมของเราเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมผลักดันให้กิจการของบริษัทฯ คงอยู่และเติบโตอย่างยั่งยืน
– สำหรับผู้ถือหุ้นของเรา เราจะสร้างผลตอบแทนด้านการเงินที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

ค่านิยมองค์กร

“เราจะขยัน ตั้งใจทำงาน มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จและความเป็นเลิศ เพื่อรักษาสมดุลของผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม ทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใส ส่งเสริมการเรียนรู้ แบ่งปัน และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อความแตกต่างที่ดีกว่า รวมทั้งการดูแลเอาใจใส่สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”

โดยใช้อักษรย่อ “D-BUILDS” มีคำจำกัดความว่า “มุ่งมั่น โปร่งใส ใฝ่พัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม” ซึ่งมีความหมายดังนี้

D – Diligence : มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จและความเป็นเลิศ ด้วยความขยันและตั้งใจทำงาน

B – Balance : ตั้งมั่นรักษาสมดุลของผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม

U – Unity : เชื่อมั่นว่าความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะนำพาไปสู่ความสำเร็จ

I – Integrity : ยึดมั่นความซื่อสัตย์ สุจริตและโปร่งใสจะนำพาสู่ความเป็นเลิศ

L – Learning : ส่งเสริมการเรียนรู้และแบ่งปัน เพื่อเป็นคนเก่งและเป็นคนดีเป็นที่ยอมรับของสังคม

D – Differentiation : พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อความแตกต่างที่ดีกว่า

S – Social Responsibility : ดูแลเอาใจใส่สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

เป้าหมาย / กลยุทธ์ของบริษัทฯ

คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดให้มีการทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมองค์กร อย่างน้อยภายใน 5 ปี เพื่อให้ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ มีจุดมุ่งหมายไปในทิศทางเดียวกัน มีการติดตามและประเมินผลงานฝ่ายจัดการในการปฏิบัติตามแผนงานให้เป็นไปตามทิศทางและกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ดังนี้

1. กลยุทธ์ด้านการขาย มุ่งเน้นให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดูแลและเอาใจใส่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างมั่นคง สร้างสมดุลของผลประโยชน์ของรายได้ที่เห็นชอบร่วมกันอย่างเป็นธรรม รวมทั้งการพัฒนาลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน พร้อมกับการสร้างความเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

2. กลยุทธ์ด้านการผลิต มุ่งเน้นให้มีการวางแผนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่น เป็นไปตามแผนงานการขาย ให้การสนับสนุนการขาย โดยการพัฒนาสินค้าใหม่หรือปรับปรุงสินค้าเดิมให้มีความหลากหลายในเรื่องของสีสัน ขนาด และรูปลักษณ์ เช่น พัฒนาไม้ระแนง ไม้รั้ว และไม้พื้นให้เป็นลายเสี้ยนไม้ที่เสมือนไม้จริง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และรักษาระดับต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้

3. กลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคล มุ่งสร้างเสริมความพร้อมของบุคลากรในองค์กร ให้ยึดมั่นความซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใส ดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความเป็นอยู่อย่างปลอดภัย โดยการพัฒนาความรู้ความสามารถทั้งด้านการผลิตและทักษะการขาย เพื่อให้มีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จและความเป็นเลิศ รองรับการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างยั่งยืน

 

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่